ฟื้นสัมพันธ์ซาอุฯ โอกาสทองแรงงานไทย หลังเคยส่งเงินกลับสะพัดปีละกว่า 9 พันล้านบาท!

ฟื้นสัมพันธ์ซาอุฯ โอกาสทองแรงงานไทย หลังเคยส่งเงินกลับสะพัดปีละกว่า 9 พันล้านบาท!

การฟื้นฟูความสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียในรอบกว่า 30 ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สรุป 9 โอกาสสำคัญที่จะส่งผลดีต่อทั้ง 2 ประเทศ ดังนี้ 1.ด้านการท่องเที่ยว 2.ด้านพลังงาน 3.ด้านแรงงาน 4.ด้านอาหาร 5.ด้านสุขภาพ 6.ด้านความมั่นคง 7.ด้านการศึกษาและศาสนา 8.ด้านการค้าและการลงทุน และ 9.ด้านการกีฬา

แต่ด้านที่หลายฝ่ายจับตามองมากที่สุด คือ ด้านแรงงาน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าในอดีตช่วงปี 2515-2530 ก่อนที่ซาอุดีอาระเบียจะตัดสัมพันธ์กับไทย ซาอุดีอาระเบียถือเป็นตลาดแรงงานสำคัญของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง เนื่องจากค่าตอบแทนที่งดงาม โดยค่าแรงขั้นต่ำในประเทศไทยในช่วงเวลานั้น ได้เงินประมาณเดือนละ 3,000-4,000 กว่าบาท ขณะที่เงินเดือนข้าราชการประมาณ 5,000 กว่าบาทเท่านั้น แต่หากไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย แม้จะเป็นแรงงานไร้ฝีมือ ก็ได้เงินเกือบ 8,000 บาทต่อเดือน จึงทำให้บรรดาผู้ใช้แรงงานชาวไทยเก็บเสื้อผ้าแบกกระเป๋ามุ่งหน้าสู่กรุงริยาด ไปรับจ้างเป็นกรรมกรก่อสร้าง ช่างซ่อมอุปกรณ์ งานบริการ ฯลฯ เพื่อนำเงินมาหล่อเลี้ยงชีพและส่งมาเลี้ยงดูครอบครัวที่แผ่นดินเกิด

ข้อมูลจากสำนักงานแรงงานไทยประจำประเทศซาอุดีอาระเบีย ปี 2515-2530 ตัวเลขแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานยังซาอุดีอาระเบีย เฉลี่ยปีละจำนวน 200,000 คน สัญญาการทำงานครั้งละ 2 ปี ค่าแรงช่วงปี 2530 เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 2,000 ริยาล บวกค่าโอทีต่างๆอีกจำนวน 2-300 ริยาล รวม 2,300 ริยาล ทำให้ต่อเดือนแรงงานไทย 1 คน ได้รับเงินเดือนราว 15,300 บาท หรือปีละ 183,600 บาท (คิดจากอัตราค่าเงินเมื่อปี 2530 1 ริยาล(ซาอุฯ)=6.67 บาท(ไทย) ถ้าแรงงานไทยทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย ปีละ 200,000 คน จะมีค่าแรงรวมต่อปี 36,720 ล้านบาท คำนวณคร่าวๆ หากแรงงานส่งเงินกลับบ้านประมาณ 25% ของรายได้ต่อคนต่อปี ในอดีตมีเม็ดเงินที่ถูกส่งจากแรงงานไทยมาให้ครอบครัวลูกหลานในระดับชุมชน จะมีมูลค่าสูงกว่าปีละ 9,000 ล้านบาท

เมื่อสองประเทศได้กลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์ โอกาสนี้จึงกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีนโยบายสำคัญคือ “วิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย ค.ศ. 2030” ซึ่งจะทำให้มีโครงการก่อสร้างตามมาอีกจำนวนมาก โดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบียตั้งเป้านำเข้าแรงงานฝีมือถึง 8 ล้านคน จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญของแรงงานชาวไทย ที่จะได้กลับไปขุดทองอีกครั้ง

สำหรับตัวอย่างตำแหน่งงานที่มีความต้องการแรงงานไทย โดยข้อมูลจากกรมการจัดหางานระบุดังนี้ วิศวกร พนักงานคอมพิวเตอร์ ช่างไฟฟ้า ช่างก่อสร้าง พนักงานบัญชี พนักงานในโรงแรม พ่อครัว (อาหารไทย และอาหารเอเชีย) ช่างเสริมสวย ช่างตัดเย็บเสื้อผ้าตามแฟชั่นช่างตัดเย็บผ้าโต๊บ ช่างออกแบบเครื่องประดับช่างเจียระไนเพชรพลอย ช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศ ช่างซ่อมเครื่องยนต์ และพนักงานขับรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถตักดิน รถเกรเดอร์

จากข้อมูลของกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน พบว่า ปัจจุบันค่าตอบแทนที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย แรงงานไร้ฝีมือจะได้รับเงินเดือนประมาณ 17,800 บาทต่อเดือน หรือเต็มที่ก็ได้ที่ 2 หมื่นกว่าบาท แต่หากเป็นแรงงานฝีมือจะได้ประมาณ 30,000 กว่าบาทต่อเดือน แต่ข้อดีของการทำงานในซาอุดีอาระเบียคือ เรื่องสวัสดิการ จะมีที่พักให้ฟรี มีประกันสุขภาพ มีอาหารตามที่ตกลงกัน

ทั้งหมดเป็นเพียงผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยเพียงด้านเดียวเท่านั้น ยังไม่นับโอกาสด้านอื่นๆที่จะตามมาอีกมหาศาล จากการฟื้นความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียได้สำเร็จในครั้งนี้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น