อัปเดตล่าสุด บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก.พ. – เม.ย. 65 จ่ายอะไรบ้าง

กรมบัญชีกลาง แจงการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่เดือนก.พ. – เม.ย. 65 หลังรัฐจะช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้า หรือบริการ ไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของโควิด-19

วันนี้(28 ม.ค.65) นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึง โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 ซึ่งจะช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 นั้น

กรมบัญชีกลางจึงขอชี้แจงเกี่ยวกับการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน 2565 ดังนี้

1. ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
– วงเงินซื้อสินค้า 400/500 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 200 บาท)
– ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน
– ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
ค่าโดยสารรถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และ ขสมก. 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

2. ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
– เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)

3. ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)

โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า “สำหรับโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของ COVID-19 แก่กลุ่มที่มีความเปราะบางทางด้านรายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สิน และผู้ต้องการความช่วยเหลือ ตลอดจนรักษาแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2565

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ”

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อนุทิน” ขออย่าเหมาคดียิง “สจ.โต้ง” ไม่ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ย้ำมท.ลุยจัดการ ทุกสิ่งผิดกม.
บุกค้นอู่ สจ.อุ๊ คนสนิทโกทร หาหลักฐานเชื่อมโยง คดีสังหาร สจ.โต้ง 
กต.เปิดเวทีหารือ 6 ประเทศ เป็นสะพานเชื่อมสันติภาพ "มาริษ" เผยข่าวดี เมียนมายืนยันปล่อย 4 ลูกเรือไทยเร็วๆ นี้
กองทัพอาระกันเรียกร้องทหารเมียนมายอมแพ้ขณะยึดยะไข่
"บิ๊กต่าย" ปัดลอยตัวปมรพ.ตร.เอื้อ‘ทักษิณ’นอนชั้น 14 ลั่นหาก ป.ป.ช.มีมติว่าผิดลงโทษได้ ไม่ต้องตั้งกก.สอบอีก
“อดิศร” ไหว้ขอโทษ รทสช.กลางสภาฯ หลังพาดพิงบอกสส.ไม่มาประชุมสักคน
"อั้ม อธิชาติ" เปิดใจครั้งแรก ปมเลิก "นัท มีเรีย" จบความสัมพันธ์ 15 ปี เพราะอะไร
“ประเสริฐ” สั่งเข้มป้องกัน-ลดอุบัติเหตุปีใหม่ 2568 บังคับใช้กม. จัดการ “เมาแล้วขับ” ขั้นเด็ดขาด
นายกฯ เชื่อ "ทำประชามติ" ทันรัฐบาลชุดนี้ ย้ำไม่ต้องคุย ภท. หลังโหวตสวน
ทัพอากาศเยี่ยมชมศูนย์สุขภาพโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น