วันนี้ (28 ม.ค. 65) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพะเยา จังหวัดพะยา นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด ในฐานะผู้ดำเนินรายการ พร้อมด้วย น.ส.ชฎาวดี ทิพย์ชุน พิธีกรรายการช่อง The truth ที่ออกอากาศทาง Youtube ได้เดินทางมาพบ พันตำรวจโทวีระพล สำราญโจ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพะเยา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา จากกรณีที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้แจ้งความดำเนินคดี ในความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา14 ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
จากกรณีสถาบันทิศทางไทย นำคลิปวิดิโอของสำนักข่าว The truth มาเผยแพร่ในยูทูป โดยคลิปดังกล่าวหน้าคลิปมีข้อความว่า เปิดประเด็น แฟนคลับจวกยับ ธรรมนัสโผล่ร่วมโต๊ะพท. และมีภาพร้อยเอกธรรมนัส ซึ่งน.ส.ชฎาวดี พิธีกรรายการช่อง The truth ก็ได้รายงานข่าวโดยมีข้อความอาทิ แฟนคลับพลังประชารัฐจวกยับธรรมนัสโผล่ปาร์ตี้ร่วมก๊วนพรรคเพื่อไทย หมอชลน่านนั่งหัวโต๊ะสนุกสนาน ในขณะที่การเมืองประเทศไทยกำลังหักเหลี่ยมคุกกรุ่น
โดยนายสนธิญาณ ได้เปิดเผยว่า ตนถูกร้อยเอกธรรมนัส แจ้งความเรื่องทำข่าว โดนไป 2 คดี คดีแรกเป็นคดีสถาบันทิศทางไทยและสำนักข่าว The Truth รายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ร้อยเอกธรรมนัสไปให้ความเห็นว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลไม่ควรซื้อเรือดำน้ำ ซึ่งพูดในฐานะเลขาธิการพรรค ทางสถาบันทิศทางไทยก็รายงานข่าวว่า เอ๊ะ เป็นเลขาธิการของพรรคพลังประชารัฐ พรรคหลักของรัฐบาล และเป็นรัฐมนตรีร่วมคณะอยู่ด้วย ทำไมไปให้ความเห็นแบบนี้และก็มีการวิเคราะห์กัน และโดยข้อเท็จจริงต้องเรียนว่า ตนไม่ได้รายงานเองข่าวนี้ เพียงแต่เวลามาเผยแพร่เนี่ยะมาเผยแพร่ใน FB ของ สนธิญาณ เขาก็แจ้งความว่าผมมีความผิดนำเข้า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ส่วนอีกคดี เป็นคดีที่มีการรายงานข่าวที่สถาบันทิศทางไทย มีรายงานว่า ร้อยเอกธรรมนัสไปร่วมงานเลี้ยงที่พรรคเพื่อไทยเกิดอะไรขึ้น แล้วก็มีคนไปวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ ก็เอาเสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นมารายงาน ตอนนั้นเหตุการณ์น่าจะเกิดในวันที่ 26 ธันวาคม 2564 พอวันที่ 27 ธรรมนัสก็ออกมาชี้แจง สถาบันทิศทางไทยก็รายงานข่าวชี้แจงให้ว่า ที่รายงานข่าวไปเมื่อวานไม่จริง จริงๆแล้วเป็นงานเลี้ยงสื่อมวลชน ก็ถือว่าทำงานไปตามหน้าที่ แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าทำงานไปตามหน้าที่ เป็นข้อเท็จจริงเหมือนคดีแรก ท้ายที่สุดมันก็เกิดความแตกแยกระหว่างท่านนายกรัฐมนตรี กับ ร้อยเอกธรรมนัส จนต้องปลอดออกจากตำแหน่งไป ก็ถือว่าได้มาเที่ยวพะเยาครั้งแรกในชีวิต