เมื่อวันที่ 29 ม.ค.นายสยาม นนท์คำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)ในฐานะโฆษก พอช. กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เปิดเผยถึงกรณีน.ส.เฉลิมศรี ระดากูล รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (ผอ.พอช.) เข้าร่วมการประชุมกรรมการแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)ที่มีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายยกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า การประชุมดังกล่าวมีภารกิจที่เกี่ยวข้องกับ พอช. สรุปได้ดังนี้กรณีประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ที่ได้รับผลกระทบจาการพัฒนาระบบราง ดังนี้ 1.ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติให้ รฟท. นำมติคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ย.43 มาเป็นนโยบายและแนวในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนผู้มีรายได้น้อยในที่ดินของ รฟท. ทั่วประเทศในลักษณะเดียวกันที่ดำเนินการมาแล้ว โดย รฟท.ให้ความเห็นอยากให้ยืดยุ่นในเรื่องหากรื้อย้ายไม่เกิน 5 กิโลเมตร และขปส. ให้ความเห็นว่าที่ผ่านมาพื้นที่รองรับใหม่จะมีการหารือกันทั้งสองฝ่าย แต่ในหลักการให้มีมติบอร์ดเป็นกรอบและแนวในการพิจารณาแก้ไขปัญหา ซึ่งมติในที่ประชุมเห็นด้วย และให้นำเสนอต่อในการประชุมวันที่ 31ม.ค. เพื่อพิจารณาเข้าครม.ต่อไป
2.ให้ครม. มีมติให้ รฟท.ใช้มติอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคมเป็นแนวทางการแก้ปัญหาชุมชนผู้มีรายได้น้อยที่ถูกรฟท. ฟ้องร้องหรือดำเนินคดีให้สามารถเช่าที่ดินเดิมที่อาศัยอยู่ในลักษณะสัญญาเช่าที่ดินชั่วคราว ระยะเวลา 1 ปี ในอัตราค่าเช่า 20 บาทต่อตารางเมตรต่อปี หากไม่สามารถดำเนินการได้โดยเร็ว ให้รฟท. ไปแถลงต่อศาลเพื่อชะลอการดำเนินคดีระหว่างดำเนินการทำสัญญาเช่าชั่วคราว กรณีคดีสิ้นสุดแล้วให้ รฟท.จัดหาพื้นที่รองรับใกล้เคียงกับชุมชนระหว่างรอที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ โดย รฟท.ให้ความเห็นว่าหากให้เช่าชั่วคราวในที่เดิมที่เป็นคดี และเป็นพื้นที่ต้องส่งมอบพื้นที่ให้ตามสัญญาจะดำเนินการไม่ได้เพราะ รฟท.จะเสียค่าปรับ แต่หากเช่าชั่วคราวนอกพื้นที่ที่จะส่งมอบพื้นที่อันนี้รับได้ ทำได้ และขปส. ให้ความเห็นชาวชุมชนยืนยันว่าไม่ได้ต้องการอาศัยในพื้นที่เดิม เพียงแต่ต้องการระยะเวลาในการเตรียมโยกย้ายไปสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ดังนั้นหากมีที่รองรับชั่วคราวใกล้กับชุมชนเดิมระหว่างรอการโยกย้าย และขอใช้พื้นที่ยังไม่ได้ส่งมอบให้ผู้ดำเนินการก่อสร้างก็จะบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ ซึ่งมติในที่ประชุมก็เห็นด้วย และให้นำเสนอต่อในวันที่ 31ม.ค. เพื่อพิจารณาเข้า ครม.ต่อไป
3.ให้ครม. มีมติให้พอช. กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ดำเนินการเสนอโครงการแก้ไขปัญหาประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจาการพัฒนาระบบรางต่อที่ประชุม ครม.ในระยะต่อไปโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นโครงการรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่อาศัยโดยเทียบเคียงมติ ครม.กรณีการดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ที่ได้รับผลกระทบจาการสร้างเขื่อนริมคลองและการพัฒนาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2559 กล่าวคือ มีการอุดหนุนงบประมาณการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและอุดหนุนที่อยู่อาศัย ครัวเรือนละ 80,000 บาท และงบประมาณช่วยเหลือผู้ได้รับกระทบและเสียโอกาส ครัวเรือนละ 80,000 บาท เรื่องนี้พอช. ให้ความเห็นในคราวการประชุมอนุกรรมการที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ เมื่อ 27 ธ.ค.64 โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นประธานในที่ประชุม มีผู้บริหารกระทรวงที่เข้าร่วมประชุมประกอบไปด้วย นางพัชรี อารยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นายอนุกูล ปีดแก้ว อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ นางอภิญญา ชมภูมาศ รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ์ ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ นาย ปฎิภาณ จุมผา รักษาการผอ.พอข.และผู้แทนเครือข่ายชุมชนที่เป็นอนุกรรมการเข้าร่วมการประชุม ซึ่งที่ประชุมพิจารณาเห็นว่าเป็นความเดือดร้อนของประชาชนและเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนคนจนในเรื่องนี้ เห็นควรดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้ว ขณะที่ขปส. ให้ความเห็น ไม่มีความเห็น โดยมติในที่ประชุด เห็นด้วย ให้นำเสนอต่อในวันที่ 31ม.ค. เพื่อพิจารณาเข้า ครม.ต่อไป