“หมอเฉลิมชัย”เผย”โอไมครอน”สายพันธุ์ย่อย BA.2แพร่เร็วกว่า BA.1 ถึง 1.5 เท่า

"หมอเฉลิมชัย"เผย"โอไมครอน"สายพันธุ์ย่อย BA.2แพร่เร็วกว่า BA.1 ถึง 1.5 เท่า

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุว่า ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่ 2 (BA.2) แพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ย่อยที่ 1 (BA.1) 1.5 เท่า

หลังจากไวรัสโอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักของโลก ในการก่อให้เกิดโรคโควิด โดยใช้เวลาเพียง 2 เดือนเศษ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากไวรัสโอมิครอน มีโครงสร้างหนามที่เปลี่ยนแปลงไปมาก จึงทำให้มีความสามารถในการแพร่ระบาดมากกว่าไวรัสเดลต้า 4-6 เท่า ต่อมาก็พบว่าไวรัสดังกล่าว มีการแยกออกเป็น 3 สายพันธุ์ย่อย (Subvariant) คือ BA.1 , BA.2 , BA.3 โดยที่ขณะนี้ สายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง เป็นสายพันธุ์หลักประมาณ 98% ใน 160 ประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีการตรวจพบสายพันธุ์ย่อยที่สอง ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2564 และทำท่าว่าจะแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง โดยข้อมูลล่าสุด พบในประเทศต่างๆ 54 ประเทศแล้ว โดยมีประเทศเดนมาร์กเป็นประเทศแรกที่พบ และในขณะนี้ผู้ติดเชื้อในเดนมาร์กกว่าครึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยที่สองแล้ว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเดนมาร์ก และผู้บริหารของสถาบันแห่งชาติเดนมาร์ก ได้ให้ข้อมูลว่า สถานการณ์ผู้ติดโควิดของเดนมาร์กกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีสายพันธุ์ย่อยที่สองเป็นสายพันธุ์หลัก

และจากการคำนวณความสามารถเบื้องต้นพบว่า สายพันธุ์ย่อยที่สองแพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง 1.5 เท่า และมักจะแพร่ระบาดในเด็กอายุ 5-17 ปี
แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า สายพันธุ์ย่อยที่สอง จะทำให้เกิดโรคที่รุนแรงถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาลมากกว่าสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง
ในขณะที่ประเทศอังกฤษ ได้จัดให้สายพันธุ์ย่อยที่สอง อยู่ในกลุ่มที่จะต้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติม (VUI)
โดยพบว่าประสิทธิผลของวัคซีนต่อสองสายพันธุ์ย่อยนั้นใกล้เคียงกันคือ
ถ้าฉีด 2 เข็ม นานกว่า 6 เดือน จะมีประสิทธิผลเหลือเพียง 9-13%
ถ้าฉีดกระตุ้นเข็ม 3 นาน 2 อาทิตย์หลังจากกระตุ้น จะมีประสิทธิผลเพิ่มขึ้นเป็น 63-70% ใกล้เคียงกัน
และยังพบในประเทศนอร์เวย์ สวีเดน สิงคโปร์ อินเดีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐฯ และพบในประเทศไทยแล้วด้วยเช่นกัน
จึงสามารถสรุปได้ว่า
1) สายพันธุ์ย่อยที่ 2 แพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์ย่อยที่ 1 มากถึง 1.5 เท่า แต่ความรุนแรงของโรคยังใกล้เคียงกัน
2) ระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายที่เกิดจากการฉีดวัคซีน สามารถรับมือกับทั้งสองสายพันธุ์ย่อยได้ใกล้เคียงกัน โดยลดลงจากที่สามารถรับมือกับเดลต้าค่อนข้างมาก
3) พบไวรัสสายพันธุ์ย่อยที่สองในประเทศไทยแล้ว
กรณีดังกล่าว จะส่งผลให้
1) สายพันธุ์ย่อยที่สอง อาจจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของโลกแทนสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่งได้ในเร็ววันนี้
2) ทำให้สามารถพบการติดเชื้อซ้ำ คือ คนที่เคยติดโควิดและหายดีแล้ว ก็สามารถกลับมาติดโควิดซ้ำเป็นครั้งที่สองได้อีก โดยเฉพาะในกรณีต่างสายพันธุ์ย่อย
จึงควรมีความระมัดระวังและมีมาตรการต่างๆได้แก่
1) ประชาชนยังต้องรักษาวินัยในการป้องกันโรคระบาด เพราะสายพันธุ์ย่อยที่สองแพร่เร็วและง่ายกว่าสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง
2) ภาครัฐยังไม่ควรส่งสัญญาณให้สาธารณะเข้าใจว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรการ Test&Go หรือการคาดหมายว่าจะเป็นโรคประจำถิ่น
เพราะจะทำให้ความระวังของสาธารณะลดลง เป็นโอกาสให้เกิดการแพร่ระบาดของโอมิครอนเพิ่มขึ้นมาได้
ปัจจุบัน การติดโควิดในประเทศไทยถือว่าทรงตัว ยังไม่ใช่ช่วงขาลง
3) ควรเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 โดยเร็ว เพราะได้ผลดีกว่า 2 เข็มชัดเจน การตั้งเป้าฉีดเข็มสอง 80% จึงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องปรับเป้าหมายเป็นฉีดเข็มสามให้ได้ 80%
4) เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงได้แก่ ผู้สูงอายุและกลุ่มโรคประจำตัว ให้ได้100% หรือให้ได้มากที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตลง
5) ทุกฝ่ายต้องมีความเข้าใจร่วมกันว่าโอมิครอนยังอยู่ในสถานการณ์ทรงตัว ไม่ใช่ช่วงขาลง ยังคงจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการและการระมัดระวังอยู่ในระดับเท่าเดิม
6) ไม่ควรปล่อยให้มีการติดเชื้อตามธรรมชาติ โดยเข้าใจว่ามีอาการรุนแรงน้อย เพราะสามารถติดเชื้อซ้ำได้ และบางรายอาจมีอาการแทรกซ้อนเรื้อรังที่เรียกว่า Long Covid

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ณฐพร" มอบหลักฐานสภาทนายความ ปมฮั้วเลือกสว. เตรียมส่งต่อเอกสาร ให้ดีเอสไอ
"อนุทิน" ตอบแล้ว อนาคตการเมือง หยิกแขนสื่อโดนซักถอนตัว โยงผลโหวตศึกซักฟอก
เดือด พนักงานขายเก้าอี้นวดไฟฟ้า แทงกันดับคาห้างดัง มือแทงสารภาพหมดเปลือก
“เต้ มงคลกิตติ์” เล่า “แตงโม” มาเข้าฝัน ก่อนวันส่งคลิปหลักฐานให้ดีเอสไอ เชื่ออีกไม่นาน ความจริงปรากฎ
สหรัฐฯลุยเลิกจ้าง-พักงานพนง.USAID
อิสราเอลปล่อยคลิปนาทีสังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์
หน่วยงานสหรัฐฯขัดขืนคำสั่งอีลอน มัสก์
บินรบอิตาลีประกบอเมริกันแอร์ไลนส์หลังขู่บึ้ม
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) DEEP Robotics เปิดตัวหุ่นยนต์ 4 ขา ใช้งานสมบุกสมบัน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนสร้างเมืองอัจฉริยะเซินเจิ้นด้วยเทคโนโลยี AI

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น