วันนี้ 29 มกราคม 2565 ที่จังหวัดนครพนม หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฑโท พระธุดงค์สายป่า วัย 72 ปี ซึ่งได้เดินธุดงค์เท้าเปล่าจากจังหวัดภูเก็ต เป้าหมายเพื่อไปยังจังหวัดนครพนมบ้านเกิด รวมระยะทาง 1,500 กิโลเมตร ใช้เวลา 79 วัน
โดยช่วงสายของวันนี้ หลวงตาบุญชื่นเดินธุดงค์ เข้าเขตอำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม ตลอดเส้นทาง มีประชาชนชาวอำเภอโพนสวรรค์ บ้านเกิดหลวงมา มานั่งรอพร้อมนำน้ำดื่ม พวงมาลัย นม และสิ่งของ มารอถวายหลวงตาบุญชื่นและกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล เนืองแน่นตลอดเส้นทาง โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ที่มานั่งรอกราบไหว้และขอพรจากหลวงตาบุญชื่น บอกว่า หลวงตาบุญชื่น เป็นพระที่มีความตั้งหมั่น ในการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไม่รับปัจจัย รับเฉพาะน้ำดื่ม อีกทั้งในส่วนน้ำดื่มที่ทางชาวบ้านได้มอบถวายให้กับหลวงตาบุญชื่นในครั้งนี้ เป็นจำนวนมาก หลวงตาบุญชื่นเองก็มอบน้ำดื่มให้กับทางโรงเรียนและทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลในพื้นที่ ที่ทางหลวงตาบุญชื่น เดินธุดงค์ผ่าน จึงทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ ศรัทธาในการปฏิบัติของหลวงตาชื่น
หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒิโท พระธุดงค์สายป่า อายุ 72 ปี ชาวบ้านเสาเล้า ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม หลังสละทางโลก ตัดสินใจอุปสมบท บำเพ็ญเพียร ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน แสวงบุญ จาริกธรรม ตามรอยพระเกจิชื่อดัง “หลวงปู่มั่น” ที่มีความเชื่อ ความศรัทธามาตลอด
เพื่อหาความสงบสุขในชีวิต ทำให้ตัดสินใจขอลาครอบครัว ภรรยา และลูกอีก 4 คน อุปสมบทเป็นพระมาตั้งแต่อายุ 60 ปี โดยได้บำเพ็ญเพียรด้วยการเดินจาริกธุดงค์เท้าเปล่าทุกปี มาตั้งแต่ปี 2559 จนปัจจุบัน รวมเป็นเวลาร่วม 5 ปี ทุกปีจะเดินจาริกธุดงค์เป็นระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตร จากภาคอีสาน บ้านเกิด ณ ที่พักสงฆ์ชั่วคราว ท้ายหมู่บ้านเสาเล้าใหญ่ หมู่ 2 ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ไปกลับภาคเหนือ-อีสาน ทุกปี
ใช้ระยะเวลาเดินทางไปกลับประมาณ 2 เดือน เพื่อเป็นการบำเพ็ญเพียรโดยยอมสละสังขาร ด้วยการบำเพ็ญเพียรธุดงค์ มรณะภาพที่ไหนเผาที่นั่น ที่สำคัญตลอดเส้นทางไม่รับปัจจัยและสิ่งของ รับเพียงน้ำเปล่าพอดื่มดับกระหาย ทำให้มีชาวบ้านศรัทธามารอกราบไหว้ขอพร ล่าสุด หลวงตาบุญชื่น เดินธุดงค์เท้าเปล่าถึงที่พักสงฆ์ชั่วคราว ท้ายหมู่บ้านเสาเล้าใหญ่ หมู่ 2 ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีลูกศิษย์มารอรับเป็นจำนวนมาก รวมระยะทางการเดินจาริกธุดงค์เป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร ในเวลา 79 วัน จากการสอบถาม หลวงตาบุญชื่น เคยเปิดเผยถึงเส้นทางชีวิตว่า หลังสร้างฐานะครอบครัวแต่งงานกับนางตาล อุ่นเพียรโสม อายุ 67 ปี ตั้งแต่อายุ 20 กว่าปี มีลูกด้วยกัน 4 คน สร้างฐานะครอบครัวมาตลอดร่วม 40 ปีทำไร่ทำนา จนอายุ 60 ปี ได้ตัดสินใจลาบวช เมื่อปี 2552 โดยครอบครัวไม่ขัดข้อง เพราะตนเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา รวมถึงอยากปฏิบัติธรรมบำเพ็ญเพียรภาวนาตามรอยพระเกจิชื่อดัง “หลวงปู่มั่น” เพราะเชื่อว่าจะเป็นหนทางสู่ความสงบสุข ตัดทางโลกสู่ทางธรรม จึงเริ่มตัดสินใจเดินจาริกธุดงค์เท้าเปล่า ในช่วงก่อนเข้าพรรษาประมาณ 1 เดือน ทุกปี เพื่อมุ่งหน้าไปตามวัดที่สำคัญ ไปกราบนมัสการพระชั้นผู้ใหญ่ และจำพรรษาปีแรกมุ่งหน้าสู่ จ.เชียงราย เมื่อปี 2559 ไปกลับเหนือ-อีสาน หลังจากออกพรรษา จะเดินธุดงค์กลับบ้านเกิด ณ ที่พักสงฆ์ชั่วคราว ท้ายหมู่บ้านเสาเล้าใหญ่ หมู่ 2 ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ที่ลูกหลาน ญาติ ทำไว้ให้ ซึ่งต่อเนื่องมาทุกปี ถึงแม้จะรู้ว่าครอบครัวเป็นห่วง แต่ตนได้สั่งไว้ว่า ตายที่ไหนเผาที่นั่น ได้สละสังขารสู่ทางธรรมแล้ว ส่วนใหญ่ญาติจะติดตามได้จากข่าวเท่านั้น เพราะหลวงตาบุญชื่นไม่มีโทรศัพท์ติดต่อ เมื่อหลายปีก่อนเคยไปธุดงค์จำพรรษาในพื้นที่เขาภูพาน ถ้ำเตียง สิริขันธ์ เทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร มาต่อเนื่องถึง 4 ปี สำคัญที่สุดไม่ต้องการรับสิ่งของปัจจัย เพราะกิจของสงฆ์จะต้องไม่ขาด มีแค่บิณฑบาต ทำวัดเช้าเย็น สวดมนต์ เจริญภาวนา และศึกษาธรรมะ มาถึงวันนี้ชีวิตไม่ได้กังวล เพราะสละทุกอย่างแล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามสังขาร ตราบใดเดินไหวยังจะแสวงบุญทุกปีอย่างนี้ต่อไป.
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครพนม