ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ความพอใจหลังฟื้นสัมพันธ์ ไทย ซาอุดีอาระเบีย กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,114 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 27 – 29 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.3 รับทราบการทำงานและรับรู้ถึงความพยายามของรัฐบาล ในการรักษาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคและระดับนานาชาติให้ดีขึ้น
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า เมื่อถามถึงความพอใจของประชาชนต่อการฟื้นสัมพันธ์ไทยกับซาอุดีอาระเบีย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.9 พอใจ ในขณะที่ร้อยละ 11.1 ไม่พอใจ และเมื่อถามถึงการรับรู้เปรียบเทียบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในช่วงประมาณ 8 ปีที่ผ่านมาพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.6 ระบุ รัฐบาลมีความสัมพันธ์กับภูมิภาคและประเทศเพื่อนบ้านอย่างดีมากในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา โดยไม่มีสู้รบใช้ความรุนแรงกับประเทศเพื่อนบ้าน พม่า กัมพูชาและลาว เช่นอดีตที่ผ่านมา
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวอีกว่า ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงประโยชน์ด้านต่าง ๆ จากการฟื้นสัมพันธ์ไทยกับซาอุดีอาระเบีย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.2 ระบุด้านพลังงาน เนื่องจากซาอุดิอาระเบียถือเป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีความมั่นคงด้านพลังงานและการพัฒนาร่วมกันได้ในอนาคต ทั้งภาครัฐและเอกชน ร้อยละ 57.0 ระบุ ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ โดยคาดว่าการเดินทางไปมาเพื่อท่องเที่ยวหรือการแสวงบุญของพี่น้องมุสลิมจะมีมากขึ้น ร้อยละ 56.5 ระบุ ด้านแรงงาน โดยเชื่อว่าจะมีการว่าจ้างแรงงานฝีมือไทยหลายล้านคนกลับไปทำงานเช่นอดีต ร้อยละ 55.3 ระบุ ด้านการเกษตรการส่งออก หวังว่าสินค้าทางการเกษตรที่ไทยมีความสามารถในการส่งออกและการผลิตในอุตสาหกรรมอาหารรวมถึงภาคการเกษตรจะดียิ่งขึ้น ร้อยละ 53.5 ระบุ ความมั่นคงปัญหาชายแดนภาคใต้ น่าจะมีทิศทางที่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ตามลำดับ
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่รับรู้รับทราบถึงการทำงานและความพยายามของรัฐบาลในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศต่าง ๆ ทั้งกับประเทศเพื่อนบ้านและในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งตะวันออกกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการฟื้นสัมพันธ์ไทยกับซาอุดีอาระเบียที่ขาดช่วงมากว่า 30 ปี ซึ่งสร้างความพอใจและความคาดหวังของประชาชนที่จะเกิดร่วมกันในมิติต่างๆของเศรษฐกิจที่จะมีพัฒนาการมากขึ้น เช่น ด้านพลังงาน ด้านการท่องเที่ยวและแสวงบุญ ด้านแรงงาน ด้านการค้าขายและการเกษตร รวมทั้งด้านความมั่นคง เป็นต้น ซึ่งซาอุดีอาระเบีย เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตะวันออกกลาง
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ความสำเร็จและผลประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดขึ้นได้จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนและมีส่วนร่วมกันในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ร่วมกันเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนกระชับความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในมิติต่างๆให้มากขึ้น โดยความสำเร็จและผลประโยชน์สูงสุดที่ยั่งยืน อยู่ที่การมีส่วนร่วมของประชาชนคนไทยทุกคน ที่จะช่วยกันรับลูกสานต่อความจริงใจและจริงจัง ในการรักษาไว้ซึ่งการฟื้นสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งขาดหายไปกว่า 30 ปี ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมและได้ประโยชน์ร่วมกันในภาพรวม