สตช.ประณามระเบิดยะลา แจงไร้เจ็บตาย คาดสร้างสถานการณ์!

สตช.ประณามเหตุระเบิดยะลา แจงไร้เจ็บตายคาดหวังสร้างสถานการณ์ ขณะผบ.ตร.บินลงพื้นที่วันนี้ประชุมเร่งรัดคดีจับกุมคนร้าย

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอชี้แจงถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดยะลา ดังนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.45 น. ของวันที่ 29 มกราคม 2565 ทางศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ภ.จว.ยะลา ได้รับแจ้งว่ามีเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 10 ถ.สิโรรส ต.สะเตง อ.เมือง จว.ยะลา ข้างโรงเรียนเทศบาล 1 ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และถัดมาเมื่อเวลา 21.44 น. ก็ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าได้ยินเสียงคล้ายระเบิดอีกครั้ง ที่บริเวณ TOT ต.สะเตง อ.เมือง จว.ยะลา ซึ่งทางพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าระเบิดที่ใช้ก่อเหตุ เป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุอัดดินในกระป๋องสเปรย์และท่อเหล็ก จุดชนวนด้วยระบบตั้งเวลา อาศัยแรงอัดทำให้เกิดเสียงดัง ไม่มีสะเก็ดระเบิด ซึ่งเป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุเมื่อคืนวันที่ 28 มกราคม 2565 จึงคาดว่าเป็นการระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ก่อเหตุได้วางระเบิดไว้ในจุดดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 แต่คาดว่าระเบิดน่าทำงานผิดพลาดจึงเพิ่งมาระเบิดเมื่อคืนนี้

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต และทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อนำไปประกอบการตรวจพิสูจน์ รวมถึงประกอบการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป และในวันที่ 30 มกราคม 2565 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชากาตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางลงไปยัง จังหวัดยะลา เพื่อประชุมเร่งรัดการดำเนินคดีและร่วมกันหารือถึงแนวทางการสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุดังกล่าวโดยเร็ว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิดเสาไฟฟ้าหลายจุดในพื้นที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ทางพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว จำนวน 2 ราย และในเหตุการณ์ระเบิดบริเวณสถานีรถไฟยะลา เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนพบตัวคนร้ายแล้ว อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ และขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่ต่อไป

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เร่งทำการหาข่าวเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และเร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมถึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงคอยเป็นหูเป็นตาในการจดจำบุคคลและคอยสังเกตวัตถุต้องสงสัยที่อาจถูกวางทิ้งไว้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุ และขอประณามผู้ก่อเหตุ ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งเป็นการตอกย้ำความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้หากพบเบาะแสใดๆ สามารถแจ้ง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น