วันที่ 31 ม.ค. 65 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงว่า จากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ของกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.)เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังมองว่ากรุงเทพฯ ยังสามารถดูแลผู้ป่วยที่มีจำนวนทรงตัวและแนวโน้มอาจเพิ่มขึ้น จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนดูแลสุขอนามัยส่วนตัว ทั้งนี้ สถานที่ กิจการและกิจกรรมที่ทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยง อาทิ ร้านอาหารและสถานบันเทิงที่จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นลักษณะคล้ายบาร์ 4 ราย ร้านก๋วยเตี๋ยว ที่จังหวัดอุดร 3 ราย สถานพยาบาลที่กรุงเทพฯ 30 ราย จังหวัดชลบุรี 8 ราย จังหวัดลพบุรี 3 ราย จังหวัดนนทบุรี 3 ราย และบุรีรัมย์ 3 ราย ส่วนโรงเรียนมีหลายแห่งที่มีการเปิดเรียนพบว่ามีการติดเชื้อ พบที่จังหวัดเพชรบุรี 19 ราย จังหวัดสุรินทร์ 13 ราย จังหวัดชลบุรี 12 รายจังหวัดมุกดาหาร 7 ราย จังหวัดอุดรธานี 7 ราย จังหวัดบุรีรัมย์ 5 ราย ซึ่งในที่ประชุมมีการพูดคุยกันว่าติดเชื้อได้ แต่อย่าปิดเรียนทั้งโรงเรียน ซึ่งเป็นข้อสั่งการของผอ.ศบค.ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษา มีการประชุมมองดูประโยชน์ของเด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนแทน โดยอาจจะปิดเฉพาะห้องเรียนที่พบมีการติดเชื้อหรือชั้นเรียน แต่ไม่ควรปิดทั้งโรงเรียน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อในตลาดที่จังหวัดอุบลราชธานี 27 ราย จังหวัดสมุทรสาคร 7 ราย จังหวัดน่าน 22 ราย จังหวัดอุดรธานี 4 ราย จังหวัดขอนแก่น 4 ราย และจังหวัดศรีสะเกษ 3 ราย ส่วนโรงงาน พบที่จังหวัดสมุทรปราการ 8 ราย จังหวัดนครพนม 21 ราย จังหวัดฉะเชิงเทรา 11 ราย จังหวัดสุรินทร์ 6 ราย จังหวัดลพบุรี 4 ราย จังหวัดชลบุรี 3 ราย และจังหวัดบุรีรัมย์ 3 ราย ขณะที่สถานที่ทำงาน อาทิ ร้านทำผม พบที่จังหวัดเพชรบุรี 7 ราย และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 42 รายไม่ได้มีการแจ้งว่าเป็นร้านอะไร สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา เช่น งานศพงานแต่ง และงานบวชในพื้นที่ต่างจังหวัด ยังพบที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนในค่ายทหาร พบที่จังหวัดปราจีนบุรี 6 ราย และจังหวัดลพบุรี 3 ราย