นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 แรงงานกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศตาม MOU จำนวน 185 คน ได้เดินทางเข้าประเทศไทยทางด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากการดำเนินการตามขั้นตอนของทางการไทย มีแรงงาน จำนวน 158 คน เข้ากักตัวในสถานที่กักกันรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organization Quarantine) ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ณ อาคาร อินโดจีน Grand Residence ศูนย์ OQ บริษัท สุวรรณภูมิอินเตอร์เฮลท์เมด จำกัด โดยจะต้องกักตัวอย่างน้อย 7 วัน ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข โดยแรงงานกลุ่มนี้ได้รับวัคซีน ครบ 2 เข็มจากประเทศต้นทาง และมีการซื้อกรมธรรม์ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล ซึ่งคุ้มครองการรักษาโรคโควิด-19 เมื่อครบกำหนดนายจ้างจะรับคนต่างด้าวไปยังสถานประกอบการ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64 ถึงปัจจุบัน มีนายจ้างยื่นคำร้องขอนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศ (Demand) แล้ว จำนวน 1,349 คำร้อง ต้องการแรงงานต่างด้าว จำนวน 90,071 คน แบ่งเป็นสัญชาติเมียนมา 65,064 กัมพูชา 18,873 คน ลาว 6,134 คน โดยจะเดินทางเข้าทางด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก 64,616 คน สระแก้ว 18,873 คน หนองคาย 6,128 คน ระนอง 448 คน มุกดาหาร 6 คน
“สำหรับทางการไทย เรามีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สาธารณสุข และส่วนราชการจังหวัด ในการจัดเจ้าหน้าที่ดูแลให้เกิดความสะดวกทุกขั้นตอน นอกจากนี้ผมได้กำชับกรมการจัดหางานประสานจังหวัดเพื่อจัดเตรียมความพร้อมสถานที่กักกัน เพื่อรองรับแรงงานที่จะเข้ามาทำงานตาม MoU และทำให้นายจ้าง สถานประกอบการที่ต้องการจ้างงานแรงงาน 3 สัญชาติมีแรงงานขับเคลื่อนกิจการโดยเร็ว เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ห่วงใยและติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะปัญหาขาดแคลนแรงงานสามารถส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ”
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ในรอบนี้กรมการจัดหางานอนุมัติบัญชีรายชื่อทั้งสิ้น 220 คน แต่มีแรงงานกัมพูชาที่ไม่ได้เดินทางเข้ามาเพราะยังไม่มีความพร้อม จำนวน 35 คน ที่เหลือจำนวน 185 คน เดินทางผ่านตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ผ่านการคัดกรองจากด่านควบคุมโรคคลองลึก จนได้รับการตรวจลงตราวีซ่า 158 คน และถูกผลักดันกลับประเทศ จำนวน 27 คน เนื่องจากพบประวัติว่าแรงงานกลุ่มดังกล่าวเคยลักลอบเดินทางกลับประเทศต้นทางตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งขอฝากถึงแรงงานทุกสัญชาติที่จะเข้ามาทำงานในประเทศ ขอให้เคารพกฎหมายของประเทศไทย เพราะเป็นผลดีกับตัวของแรงงานเอง หากมีการตรวจสอบ พบเคยกระทำความผิดเช่นกรณีดังกล่าว ท่านก็จะเสียโอกาสในการเข้ามาทำงานในประเทศไทย
ทางนายวิสุทธิ์ สาริกา ผู้จัดการฝ่ายบริหารบุคคล บ.พนัสโพลทรี่ กรุ๊ป จำกัด กล่าว่า ตนรอคอยการนำเข้าแรงงาน MoU มา 2 ปี ตั้งแต่ช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด และวันนี้เราก็นำแรงงานเข้ามาได้ ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ทำให้มีวันนี้ ได้แรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงานได้ และตนยังคาดหวังว่าจะมีแรงงานเมียนมาตามเข้ามาเพื่อช่วยขับเคลื่อนกิจการโดยเร็ว