พลิกปมร้อน! ลือกระฉ่อนใบแดง “บิ๊กแจ๊ส” นายก อบจ.ปทุม

หลังจากที่มีชาวบ้านคลองหลวงกว่า 200 คน เดินทางมาให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก.อบจ.ปทุมธานี ที่บ้านพักหลังมีกระแสข่าวว่า กกต.ปทุมธานีเตรียมแจกใบแดง หลังถูกตัวแทนของ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครคู่แข่งและยังเป็นอดีตนายก อบจ. ร้องกกต.ว่ากระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวกับมวลชนว่า จากกระแสข่าวที่ตนจะโดนใบแดงนั้น ส่วนตัวเป็นห่วงผู้ที่ไม่รู้เรื่องที่เขายืนหยัดอยู่บนความยุติธรรม เมื่อออกมาแบบนี้มันจะเสียหายทั้งองค์กร กกต. คนที่ทำให้มันออกมา คุณต้องรับผิดชอบ ดังนั้นตนมั่นใจ กกต.กลางทั้ง 7 คน ส่วนใครที่ทำให้เสียหายก็รับไป
นอกจากนี้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยังกล่าวว่า ตอนขอยืนยันเลย ไม่หวั่นไหว แต่ที่สิ่งที่หวั่นไหวคือพี่น้องประชาชน ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ได้เกิดในจังหวัดปทุมธานี ตอนนี้ในอบจ. ก็มีการลือกันไปต่างๆนานาว่าตนโดนใบแดง เสียงลือว่ามีการวิ่งเต้นเพื่อให้ตนได้ใบแดง ซึ่งก็บอกย้ำว่าอย่าให้เกิดความเสียหายแบบนี้ในองค์กรของกกต. ซึ่งเขามีความยุติธรรมในการจัดเลือกตั้ง พี่น้องไม่ต้องห่วง ถ้าจะโดนใบแดงก็ต้องใบแดง แต่ผมจะทำงานให้พี่น้องประชาชนจนวันสุดท้ายของการหยุดปฏิบัติหน้าที่

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนปมเหตุของคดี มีรายละเอียดดังนี้
20 ธ.ค.63 ประกาศผลการเลือกตั้ง นายก.อบจ.และ ส.อบจ. จ.ปทุมธานี ปรากฏว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง จากกลุ่มคนรักปทุม เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
24 ธ.ค.63 นายชาญ พวงเพชร์ ผู้สมัครนายกอบจ. จากกลุ่ม ปทุมรักไทย ให้นายไพศาล กล่ำสนอง ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 1 ไปร้องคัดค้านการเลือกตั้งหลังพบว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และพวก มีการหาเสียงเลือกตั้งกระทำผิด พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น มาตรา 65 วรรคหนึ่ง(5) และวรรคสอง ในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 และนโยบายที่ใช้หาเสียงเลือกตั้งเป็นการหลอกลวงประชาชน อยู่นอกอำนาจหน้าที่ของ อบจ. และไม่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ซึ่งมีประเด็นกระทำผิดคือ
(1) ก่อใช้ สนับสนุน ให้นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยหาเสียงให้ร้าย ใส่ความด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จว่า น้ำท่วมปทุมธานี ปี 2554 เกิดจากผู้ว่ากรุงเทพปล่อยให้น้ำท่วมปทุม เพราะนายกอบจ.ปทุมธานี ในขณะนั้นไม่มีความสามารถ และยังปราศรัยว่าขณะที่นายชาญ พวงเพ็ชร์เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี มีคดีทุจริตอยู่ในการสอบสวนของป.ป.ช. กว่าสี่สิบคดี และหากินกับผู้รับเหมา และด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน

(2) นโยบายในการหาเสียงพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และกลุ่มคนรักปทุมเป็นนโยบายที่หลอกหลวงประชาชน อยู่นอกอำนาจหน้าที่ของอบจ. และไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากเป็นนโยบายที่ใช้งบประมาณเกินกว่าอำนาจหน้าที่อบจ.
1. นโยบายกำจัดผักตบชวาแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในความดูแลของกรมเจ้าท่า ไม่สามารถดำเนินการได้
2. นโยบายแก้ไขปัญหาน้ำประปาไหลอ่อน มีราคาแพง เรื่องการผลิตน้ำประปาอยู่ของการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค อบจ.ปทุมธานี ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากอยู่จะซ้ำซ้อนกับรัฐวิสาหกิจ
3. นโยบายแก้ปัญหารถติด ด้วยรถไฟฟ้าโมโนเรล เป็นการใช้งบประมาณเกินกว่าที่อบจ.ปทุมธานี หากดำเนินการต้องใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านบาท ไม่สามารถดำเนินการได้ อบจ.ไม่สามารถดำเนินการจัดทำบริการสาธารณะที่ซ้ำซ้อนกับกระทรวงคมนาคมได้
4. นโยบายด้านการกีฬา จัดสร้างสนามฟุตบอล มาตรฐานระดับฟีฟ่า และจัดตั้งทีมฟุตบอลปทุมธานี เอฟซี เพื่อส่งแข่งขันในลีกสูงสุดของอาชีพ ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของอบจ.ปทุมธานี เนื่องจากอบจ.สามารถส่งเสริมการกีฬาได้เท่านั้น การสร้างสนามกีฬามาตรฐานฟีฟ่าต้องใช้พื้นที่และงบประมาณหลายร้อยล้านบาท อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำหรับการสร้างทีมฟุตบอลอาชีพ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเคยวินิจฉัยว่า องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถอุดหนุนกีฬาอาชีพได้ และมีการเรียกคืนเงินงบประมาณดังกล่าวแล้วหลายครั้ง

มีพยานหลักฐานชัดแจ้ง โดยมีการปราศรัยสดผ่านทาง Facebook ของพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง คลิปวิดีโอที่ใช้หาเสียงของพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และผ่าน Youtube ของนายอดิศร เพียงเกษ โดยมีนายอมร รัชตังกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานีเป็นผู้รับเรื่อง

วันที่ 25 ม.ค.64 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี หมายเลข 2 ว่าที่นายก อบจ.ปทุมธานี พร้อมด้วย นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกพรรคเพื่อไทยและผู้สมัคร กลุ่มคนรักปทุม เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาว่าด้วยกระทำผิด พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้าพบกกต.จ.ปทุมธานี

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า คณะกรรมการเลือกตั้งได้เรียกเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา โดยตนมีทั้งหมด 6 ประเด็น และนายอดิศร มี 3 ประเด็น ทางเราต้องหาพยานหลักฐานจำนวนมากมาแก้ข้อกล่าวหาเรื่องที่ร้องเรียน ยกตัวอย่างที่พูดไปว่าปทุมธานีเป็นต้นน้ำประปา คนกรุงเทพใช้น้ำจากปทุมธานี แต่ทำไมคนปทุมธานี น้ำเหลืองบ้าง บางหมู่บ้าน น้ำประปาไหลบ้างไม่ไหลบ้าง จำเป็นต้องอ้างพยานหลักฐาน โดยผู้ร้องร้องว่าน้ำประปา ไม่ใช่หน้าที่ อบจ. เป็นหน้าที่ของการประปาส่วนภูมิภาค ตนก็ต้องไปหาพยานหลักฐานว่าชาวบ้านเขาเดือดร้อน เราทำอย่างไร อบจ.มีหน้าที่อย่างไร ประสานงานกับการประปาไหม

“สรุปแล้วว่าตาม 6 ข้อที่กล่าวหามานั้น ผมยังไม่รู่ว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของอบจ. แล้ว อบจ.มีไว้ทำอะไรได้บ้าง อย่างเช่นขยะในแม่น้ำลำคลอง ปัญหารถติด การสร้างสนามกีฬาประจำจังหวัด เป็นต้น ซึ่งจริงๆ แล้วเขาไม่รู้เลยว่า ทางเราได้เตรียมการนโยบาย และยุทธศาสตร์ในการวางแผนไว้นานแล้ว อย่างรัฐบาลเขาทำไมวางยุทธศาสตร์ไว้ 20 ปี นี่ผมไม่ได้วางไว้ 20 ปี ผมแค่ปีเดียวเราเข้าไปเราทำแน่นอน และจะเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในปีเดียว

ซึ่งทางเราไม่ได้มีความหนักใจอะไรเลย เพราะเราสามารถชี้แจงได้หมด เพียงแต่เขาบอกว่า อันนี้ไม่ใช่หน้าที่ อบจ แต่เราคิดว่า อบจ.นั้นทำได้ แต่เพียงเป็นการประสานงาน ซึ่งขนาดตนไม่ใช่นักกฎหมายยังมองออกเลยว่า ตาม พ.ร.บ.อบจ. ปี 2540 อบจ. ทำอะไรได้บ้าง ทั้งขยะมูลฝอยต่างๆ เป็นหน้าที่ของ อบจ. และเอกสารหลักฐานพยานบุคคล จะพยายามจะเตรียมมาให้ครบ เพราะนิสัยตน อยากให้ว่าไปเลย แพ้ก็แพ้ ชนะก็ชนะ ใบแดง ใบเหลืองก็ว่ากันไปเลย จะได้จบซะที พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ระบุ

ด้าน คณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.ปทุมธานี ก็ยังไม่มีการเปิดเผยผลของการตัดสินเรื่องนี้แต่อย่างใด ระบุเพียงว่าอยู่ในขั้นตอนอยู่แล้ว ตอนนี้จึงมีแค่กระแสข่าวลือกันเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง