จากกรณีพบการแลกสิทธิ์โครงการคนละครึ่งของทางภาครัฐ ในโซเชียลมีเดีย ทีมข่าวได้ตรวจสอบความจริงพบว่ามีการตั้งกลุ่มในเฟสบุ๊ค ใช้ชื่อว่า “รับแลกคนละครึ่งเฟส4” ที่มีสมาชิกอยู่เกือบ 5 หมื่นคนและมีการรับแลกอย่างโจ่งครึ่ม ซึ่งมีหลายโปรโมชั่นอาทิการรับแลก 300 บาทแต่จ่าย 270 บาท หรือ เป็นการหักร้อยละ7-10 โดยมีขั้นตอนคือการเติมเงินให้เรียบร้อย /มีโทรศัพท์2เครื่องไว้แสกน/ส่งตำแหน่งที่อยู่/รอแสกนคิวอาร์โค้ดเพื่อแสกน/เมื่อสแกนเสร็จให้ส่งสลิปพร้อมเลขบัญชีให้ทางร้าน ซึ่งจากการสังเกตุพบว่ามีทั้งคนที่ได้รับเงินจริงและถูกโกงด้วย
ผู้สื่อข่าวเองได้รู้จักกับเจ้าของร้านขายของชำ ที่รับแลกเป็นเงินสด แต่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์เนื่องจากกลัวความผิด ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า ส่วนมากที่รับแลกจะเป็นร้านขายของชำเล็กๆ และมองว่าเป็นความพึงพอใจของลูกค้าที่มาแลกตนเองไม่ได้บังคับโดยมีการแสกนโอนมาให้ตนเอง 150 เต็มสิทธิ์ของวันดังกล่าวและตนเองก็จะให้เงินสดคืนกลับไป 270 หัก 30บาท เช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่แต่ก็รับปากว่าจะไม่ทำอีกด้วย
หลังจากนั้นทีมข่าว ได้ลงพื้นที่ตลาดย่านห้วยขวางพบว่ามีประชาชนใช้โครงการคนละครึ่งอย่างสะพัด และต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่พบพฤติกรรมลักษณะการรับแลกเงินแทนการซื้อของอย่างที่ว่าเพราะทุกคนรู้ว่าผิดกฎหมาย ซึ่งได้เข้าไปสอบถามความคิดเห็นของผู้ใช้คนละครึ่งมองว่าเป็นโครงการที่ดีเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน และส่วนตัวไม่เคยแลกเงินเพราะมองว่าไม่คุ้ม เสียเปรียบ ได้เงินไม่เต็มจำนวน แถมผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า ทางกระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารกรุงไทย จะมีการเดินหน้าตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงรวบรวมพยานหลักฐานเมื่อเกิดความชัดเจนทีมกฎหมายจะสั่งระงับชั่วคราว ทั้งการระงับการใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินและการจ่ายเงินสมทบจากรัฐแก่ร้านค้า
จากนั้นจะมีการพิจารณาตรวจสอบข้อมูลและเปิดโอกาสให้ยื่นอุทธรณ์ได้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม / และหากตรวจสอบแล้วมีมูลและหลักฐานที่ชัดเจนจะเดินหน้าระงับสิทธิ์ถาวร ส่งหนังสือเรียกเงินคืนจากร้านค้าก่อนส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการในคดีอาญา และในชั้นของการดำเนินคดีหากมีการขยายผลพบ การร่วมกันกระทำความผิดของประชาชนและบุคคลอื่นก็จะมีการดำเนินคดีด้วย / ส่วนที่มีการตั้งกลุ่ม Facebook รับแลกสิทธิ์นั้น นายพรชัย ยืนยันว่า ได้มีการตรวจสอบ เดินหน้าระงับใช้ชั่วคราวด้วยเช่นเดียวกันก่อนส่งเรื่องให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้ดำเนินการยกเลิกปิดเว็บไซต์ตาม URL //ย้ำว่าโครงการคนละครึ่งเป็นโครงการที่ทางภาครัฐให้ความสำคัญและเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 การกระทำที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย