นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานสภาการฟื้นฟูแห่งชาติของมาเลเซีย (หรือ NRC) ได้ตกลงที่จะเปิดพรมแดนของประเทศอย่างเต็มรูปแบบโดยเร็วที่สุดคือวันที่ 1 มีนาคมนี้ โดยไม่ต้องมีการกักตัว อย่างไรก็ดี ผลการทดสอบโควิด-19 ก่อนออกเดินทางและเมื่อเดินทางมาถึง ยังต้องใช้อยู่ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ การเปิดพรมแดนต้องดำเนินไปในลักษณะที่วางแผนไว้ และขึ้นอยู่กับการประเมินความเสี่ยง ณ เวลาปัจจุบัน
มูห์ยิดดิน กล่าวเสริมว่า การเปิดพรมแดนครั้งนี้ จะเป็นการเปิดสำหรับทุกประเทศ และเป็นการเร่งฟื้นฟูกระบวนการทางเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวและนักลงทุนสามารถเดินทางเข้ามาได้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมการบิน และร้านค้าที่ต้องพึ่งพากำลังซื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยว ก็จะกลับมาฟื้นตัวได้ใหม่เช่นกัน
ปัจจุบัน มาเลเซียเปิดให้เฉพาะชาวต่างชาติแบบอนุญาตเป็นกรณีไป เช่น เหตุฉุกเฉิน หรือการทำธุรกิจ ระยะเวลากักตัวที่บังคับคือ 7 วัน สำหรับผู้เดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน และ 10 วัน สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือยังรับไม่ครบ ส่วนการเดินทางของผู้ฉีดวัคซีนแบบปลอดกักตัว หรือ vaccinated travel lane (VTL) ที่ทำข้อตกลงร่วมกับสิงคโปร์นั้น เพิ่งกลับมาอนุญาตให้ดำเนินการได้ แบบจำกัดโควตาขายตั๋วที่ 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา
มาเลเซียรายงานการติดเชื้อใหม่รายวันที่ 13,944 ราย ซึ่งแม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเกินหลักหมื่นอีกครั้ง แต่กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่นั้นไม่แสดงอาการ หรือมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย เนื่องจากมาเลเซียมีอัตราการฉีดวัคซีนสูง โดยกลุ่มผู้ใหญ่เกือบ 98 เปอร์เซ็นต์ในมาเลเซียได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ในขณะที่ผู้ใหญ่ที่ได้รับการฉีดกระตุ้นมีมากกว่า 53 เปอร์เซ็นต์