เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ นายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หลังจากผู้บริหารพรรคเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่แทนตน ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.พื้นที่เดิม ทั้งที่ตนเคยทำหนังสือยืนยันสิทธิ์ไปเมื่อวันที่ 1 พ.ย.64 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิฏฐ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรค เพื่อแสดงความจำนงว่าเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าตนยังมีความต้องการ และมีความพร้อมที่จะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิม โดยได้เตรียมคณะทำงานและทีมงาน ตลอดจนลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ และยังมีประชาชนในเขตเลือกตั้งให้การต้อนรับอย่างดีตลอดระยะเวลาที่ว่างเว้นไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ยังทำงานเกาะติดต่อเนื่องเพื่อประชาชน ในนามของพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้ยื่นหนังสือดังกล่าวต่อผู้บริหารพรรคไปแล้ว แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ก็ขอตั้งข้อสังเกตว่าตามปกติการจะเปิดตัวผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่มีความพร้อม จะต้องมีการจัดทำโพลสอบถามสมาชิกในพื้นที่เขตเลือกตั้งนั้นก่อน และต้องผ่านคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครในนามพรรคเป็นผู้คัดเลือก แต่ผู้บริหารกลับประกาศรายชื่อโดยไม่ได้ถามความเห็นของตนแม้แต่คำเดียว
ปชป.เลือดไหลอีก "สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์" เตรียมโบกมือลาอีกคน เผยไม่เหลียวแลอดีตส.ส. - ส่งคนใหม่ลงทับซ้อนพื้นที่ ไม่บอกกล่าวเจ้าของเดิม
ข่าวที่น่าสนใจ
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ก่อนการประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ช่วงเช้าวันนั้นตนได้โทรหา นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ประธานกรรรมการสรรหาผู้สมัครในนามพรรค แต่นายชำนิไม่รับสาย ทั้งยังไปนั่งร่วมพิธีในการเปิดตัวกลับเลือดใหม่โดยไม่เหลียวแลอดีต ส.ส.เก่าของพรรคที่เป็นเจ้าของพื้นที่ อย่างนี้จะให้ตนเข้าใจว่าอย่างไร ที่ตนเงียบไป 2 – 3 วัน เพราะได้ตัดสินใจแล้วว่าต้องเลือกเดินให้ชัดเจน ซึ่งน่าแปลกว่าทำไมผู้บริหารพรรคถึงประกาศตัวผู้สมัครเพื่อจับจองพื้นที่ก่อน ทั้งที่ กกต.ยังแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เสร็จ ทำเช่นนี้ก็ชี้ให้เห็นเจตนาว่ามีการจัดคนไปลงในเขตเลือกตั้งไว้ล่วงหน้าแล้วหรือไม่ เช่น เขต 2 เดิมของ จ.นครศรีธรรมราช ที่มีพื้นที่ อ.พระพรหม ทั้งอำเภอ และ ต.ท่าไร่ ต.บางจาก ของ อ.เมือง รวมกับพื้นที่ฝั่งซ้ายของ อ.ปากพนัง เป็นพื้นที่เดิมของ น.ส.นริศรา อดิเทพวรพันธุ์ อดีต ส.ส.เดิม ก็มีผู้ประสงค์จะลงถึง 3 คน คือ น.ส.นริศรา , นายพงษ์สินธุ์ เสนพงศ์ ผู้สมัครในการเลือกตั้งซ่อมครั้งล่าสุด และนายพิทักษ์เดช เดชเดโช (น้องชาย นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรค) แต่ผู้บริหารพรรคกลับประกาศตัวให้นายพิทักษ์เดช ลงสมัครโดยไม่มีการสอบถามและดำเนินการตามขั้นตอนแต่อย่างใด
“อยากถามว่าแล้วคนที่เหลือพรรคหาที่ลงให้เขาหรือไม่อย่างไร หรือตั้งใจให้เขาย้ายไปอยู่พรรคอื่น แม้เขาจะแถลงว่าเป็นการคัดตัวเบื้องต้น แต่เมื่อประกาศตัวมาแล้วก็มีผลกระทบในการทำพื้นที่ เพราะบุคคลอื่นที่ทำพื้นที่จะเดินหาประชาชนในพื้นที่เหมือนเดิมได้อย่างไร เพราะพรรคได้สร้างความชอบธรรมให้กับคนใหม่ที่ประกาศชื่อไปแล้ว จึงอยากถามว่าพรรคได้หาทางลงให้กับอดีต ส.ส.หลายสมัยอย่างผมอย่างไร แม้จะบอกกล่าวสักคำก็ไม่มี ผมไม่ขอวิงวอนใคร แต่ขอยึดความถูกต้อง เพราะเล่นการเมืองมาไม่เคยซื้อเสียง ไม่เคยอ้อนวอนใคร ตั้งแต่รุ่นพ่อ การกระทำอย่างนี้ก็เหมือนบีบให้ต้องทำอย่างหนึ่งอย่างใด” นายสุรเชษฐ์ กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 11 ก.พ.65 นายสุรเชษฐ์จะเดินทางไปยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทำการพรรคด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง