นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจราณากรณีการขับ 21 ส.ส. พ้นพรรคพลังประชารัฐว่าชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ ว่า ถ้ากกต.วินิฉัยกว่าการขับ 21 ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐเป็นไปโดยมิชอบ ก็ถือว่า มติพรรคไม่มีผล ไม่เกิดการขับส.ส. พ้นพรรค ดังนั้น กกต.สามารถใช้อำนาจเพิกถอนมติพรรคได้เลย แต่หากกกต.วินิจฉัยว่ามติการขับ 21 ส.ส.ถูกต้องก็ไม่เป็นปัญหาอะไร ส.ส.ที่ถูกขับก็สามารถไปหาพรรคสังกัดใหม่ได้ภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบภายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้
“ กรณีที่เป็นมติพรรคที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายนั้น กกต.สามารถเพิกถอนมติดังกล่าว มีผลทำให้ ทั้ง 21 ส.ส.มีฐานะเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เสมือนไม่เคยมีมติมาก่อน ไม่จำเป็นต้องไปหาพรรคใหม่สังกัด และหากพรรคพลังประชารัฐจะดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องก็เป็นเรื่องของพรรค” นายสมชัย กล่าว
ส่วนจะมีประเด็นว่า 18 ส.ส. ที่ย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ คือพรรคเศรษฐกิจไทยแล้วจะมีผลอย่างไร นั้น นายสมชัย กล่าวว่า ถ้าหากว่าไปตามกฏหมาย การที่นายทะเบียนพรรคการเมือง ตรวจพบว่ามีสมาชิกคนใดของพรรคการเมืองเป็นสมาชิกพรรคซ้ำซ้อนมากกว่าหนึ่งพรรค ก็ต้องทำหนังสือแจ้งกลับไปยังหัวหน้าพรรคที่มีสมาชิกซ้ำซ้อนให้ลบชื่อบุคคลดังกล่าวออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวทำให้เกิดปัญหา ว่าทั้ง 18 ส.ส.ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่แล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตามปัญหานี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น และการดำเนินการดังกล่าวจะไปถึงขั้นนั้นหรือไม่ หรือจะเป็นการรักษาสิทธิ์ของคนซึ่งถูกให้ออกว่าไม่มีเจตนาสมัครพรรคการเมืองซ้ำซ้อน แต่เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองมีมติขับออก ตนจึงยังไม่ทราบถึงแนวทางปฏิบัติว่าจะเป็นอย่างไรออกมา