วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้สภาพอากาศยังคงหนาวเย็น ในช่วงเช้ามีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 18-19 องศาเซลเซียส ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติยังเป็นที่สนใจของประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาเที่ยวชมไม่ขาดสาย โดยเฉพาะถ้ำนาคี ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูลังกา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บ้านนาโพธิ์ หมู่ 3 ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม ถือว่ากำลังเป็นที่นิยม มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาเที่ยวชม วันละเกือบ 2,000 คน เพื่อชมความสวยงาม และความอัศจรรย์ ของหินที่เกิดจากธรรมชาติ บวกกับตำนานเรื่องเล่าเชื่อมโยงกับถ้ำนาคา ทางฝั่ง จ.บึงกาฬ รวมถึงถ้ำนาคี ฝั่ง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ที่ตั้งอยู่บนเขาลูกเดียวกัน ทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ประชาชน นักท่องเที่ยว ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้นักท่องเที่ยว ที่ขึ้นไปยามเช้า ยังสามารถชมความสวยงามของ แสงแรก พระอาทิตย์ยามเช้า รวมถึงวิวทิวเขาสองฝั่งโขงแบบ 360 องศา สร้างความตื่นตามทให้กับประชาชน เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงมีมาตรการเข้มในการตรวจสอบคัดกรองป้องกันโรคโควิดระบาด ประชาชน ที่จะเข้าไปเที่ยวต้องมีการยืนยันฉีดวัคซีน 2 เข็ม รวมถึงยืนยันผลตรวจ ATK ส่วนค่าธรรมเนียมเข้าชมรวมประมาณคนละ 30 บาท เท่านั้น
นาย ประทีป ไชยภูวงค์ พนักงานราชการหัวหน้าฝ่ายบริหารอุทยานแห่งชาติภูลังกา เปิดเผยว่า สำหรับถ้ำนาคี ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความอัศจรรย์ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ต้องเดินทางลุยป่า จากที่ตั้งสำนักงานอุทยานแห่งชาติภูลังกา ขึ้นไปบนเขาประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีการค้นพบหินภูเขา ที่มีรูปร่างคล้ายเกล็ดงู ไม่แตกต่างจากถ้ำนาคาที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่อยู่ทางฝั่ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ แต่เป็นเทือกเขาลูกเดียวกัน สามารถเดินบนยอดเขาไปชมความงามของสองถ้ำได้ ในมีระยะทางห่างกันราว 7 กิโลเมตร ส่วนไฮไลท์ของถ้ำนาคี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชม จะสามารถชื่นชมความสวยงามของถ้ำนาคี ที่มีหินคล้ายหัวพญานาค นับได้มีถึง 9 เศียร นอกจากนี้ยังมีหินที่คล้ายงูจงอางแผ่พังพาน และมีหินเหมือนเกล็ดงูขนาดใหญ่ขดคดเคี้ยวไปมา จึงได้ตั้งชื่อถ้ำแห่งนี้ว่าถ้ำนาคี อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับตำนานเรื่องเล่าความเชื่อของถ้ำทั้งสองแห่งนี้ คือพญานาคหรืองูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน เพราะมีรูปร่างลักษณะเป็นงูยักษ์มีเกล็ดหินสวยงามลงตัว คดเคี้ยวไปตามหุบเขา โดยนักท่องเที่ยวจะได้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติประมาณ 9 จุด ได้แก่ วังนาคี ผานาคี หินสาลึคึ ลานธรรม หินพญาศรีสัตตนาคราช ไข่พญานาค หินโลมา
นอกจากนี้จะได้กราบขอพร เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ และเศียรพญานาค ตลอดเส้นทางยังได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติดอกไม้ป่านานาพันธุ์ ทั้งนี้ยังมีจุดเช็คอินที่สำคัญ คือ ผานาคีนับเป็นจุดชมวิวสวย ที่สามารถชื่นชมความสวยงามของเขาภูลังกาได้ 360 องศา สามารถมองเห็น เห็นแม่น้ำโขงและป่าเขาที่ล้อมรอบแบบพาโนรามา ที่สำคัญยังได้ชมแสงแรกพระอาทิตย์ยามเช้า ที่มีความสวยงาม ยิ่งในช่วงฤดูหนาวเหมาะแก่การท่องเที่ยวชมความสวยงามทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก โดยช่วงนี้ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยววันละ เกือบ 2,000 คน.
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครพนม