นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวกับ “TOPNEWS” ถึง 4 มาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบวานนี้ ว่า ตอนนี้ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจก็แย่ เพราะเดือนนี้ยังมีปัญหาอยู่ โดยเฉพาะในกลางเมืองที่เป็นเมืองเศรษฐกิจทั้งหมด รวมทั้งการแพร่ระบาดทางอุตสาหกรรมด้วย ทำให้ทุกอย่างมีปัญหาค่อนข้างมาก มาตรการที่รัฐออกมาช่วยก็เป็นเรื่องดี แต่ก็เคยคุยเรื่องคนละครึ่งบอกให้เพิ่มจำนวนเงิน มองว่ารัฐเองถ้าผ่านงบมาแล้ว ก็น่าจะเพิ่มจำนวนเงินสนับสนุนการใช้จ่ายจาก 3,000 บาท เป็น 6,000 บาท
ที่ประชุมกกร. เมื่อเดือนพ.ค. ได้เสนอให้ภาครัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจใน 4 เรื่อง อาทิ โครงการคนละครึ่ง อยากให้พิจารณาเพิ่มวงเงินสนับสนุนการใช้จ่ายจาก 3,000 บาทเป็น 6,000 บาท ซึ่งจะช่วยให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจาก 9 หมื่นล้านบาท เป็น 1.8 แสนล้านบาท เมื่อรวมเม็ดเงินของประชาชนที่นำออกมาใช้จ่ายคู่กับเม็ดเงินจากโครงการคนละครึ่ง
ส่วนมาตรการยิ่งใช้ยิ่งได้ อยากจะให้คนที่ยังมีกำลังซื้ออยู่ ออกมาใช้ให้มาก ก็เป็นมาตรการที่ดี ระยะเวลาถึงธันวาคม ก็อุ่นใจขึ้น แต่ยอมรับว่า ตัวที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด คือการฉีดวัคซีนให้เร็ว และกลับมาเปิดประเทศให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่า การดำเนินการโครงการลดค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้ง 4 โครงการ ครอบคลุมประชาชน 51 ล้านคน จะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จำนวน 473,000 ล้านบาท และจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งรักษาระดับและทิศทางของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2564
สำหรับตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ ที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประเมินไว้ว่าจะอยู่ในกรอบ 0.5-2.0% นายสุพันธุ์ มองว่า ตัวเลขดังกล่าวประเมินในเคสที่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐอยู่แล้ว เพราะเห็นถึงปัญหาค่อนข้างเยอะ ตัวเลขไตรมาส 1 ยังไม่ดี ไตรมาส 2 ก็ยังไม่น่าจะดี คงมีโอกาสติดลบในสองไตรมาสแรก โดยหวังว่าจะดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4
โดยเฉพาะไตรมาส 4 ทางส.อ.ท.คาดหวังว่าน่าจะเริ่มดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนค่อนข้างเยอะแล้วในไตรมาส 3 แต่ทั้งนี้ จำนวน 70% ก็ยังไม่เห็น ต้องรอถึงสิ้นปี จึงมองจีดีพีปี 64 ยังอยู่ในกรอบที่วางไว้ที่ 0.5-2.0% และคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ประมาณไตรมาส 2 ปีหน้า
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน เขามองว่า โอกาสที่จะดีขึ้นก็ไม่ง่าย ยังไม่เห็น คงบรรเทาประคองตัวไปในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ เป็นอุตสาหกรรมการส่งออกเสียมากกว่า แต่ตอนนี้อุตสาหกรรมการส่งออกก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด เข้าไปในส่วนของการผลิต ทำให้การส่งออกชะลอตัวลงในบางอุตสาหกรรม ซึ่งการแพร่ระบาดก็เข้าไปในโรงงานขนาดใหญ่ค่อนข้างเยอะ ก็เป็นสิ่งที่กังวล