วันที่ 13 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ขุนศึก เศรษฐชัย ผกก.สภ.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้เดินทางไปรับตัวนายประวิทย์ ชุ่มจิ้งหรีด หรือหมอแต๊ก อายุ 33 ปี อยู่เลขที่ 94 หมู่ 9 ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ที่ สภ.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อมาดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดนางรองที่ จ.16/2564 ลงวันที่ 3 ก.พ. 2564 ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หลังจากหมอแต๊ก ไปหลอกลวงชาวบ้านใน 3 อำเภอ คือ อ.นาตาล ,อ.โพธิ์ไทร และอำเภอเขมราฐ กระทั่งถูกตำรวจเขมราฐ จับกุมได้ ด้วยวิธีการคล้ายกับที่เคยก่อเหตุใน อ.ชำนิ และ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ คือหลอกให้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหมอดู อาจารย์รักษาโรค
โดยให้ชาวบ้านที่หลงเชื่อ เอาทองรูปพรรณ และเงินสดเท่าที่มีภายในบ้าน มาห่อผ้าขาวต่อหน้า 2 ต่อสองกับหมอแต๊ก โดยไม่อนุญาตให้ใครเข้าร่วมพิธีด้วย จากนั้นอาศัยช่วงหลับตานั่งสมาธิ หมอแต๊ก จะเปลี่ยนเอาทองปลอมไปใส่แทน แล้วให้เจ้าของทอง เอาห่อผ้าขาวไปไว้ในที่ลับไม่ให้ใครรู้ และห้ามเปิดดูโดยเด็ดขาด จนกว่าหมอแต๊กจะเป็นคนสั่งเมื่อถึงเวลา
ครั้งนั้น เมื่อประมาณปลายเดือนธันวาคม 2563 ต่อเดือน มกราคม 2564 มีชาวบ้านรู้ตัวเหมือนที่ จ.อุบลราชธานี แอบเปิดดูพบว่าเป็นทองปลอม และเงินสดหายไปทั้งหมด มีผู้เสียหายที่ จ.บุรีรัมย์ กว่า 10 ราย เข้าแจ้งความที่ สภ.ชำนิ ก่อนจะมีการออกหมายจับในเวลาต่อมา
ล่าสุดจากการสอบสวนของตำรวจ สภ.ชำนิ หมอแต๊ก ปรากฏว่า หมอแต๊ก ไม่ยอมให้การใดๆ ระบุจะไปให้การในชั้นศาลเพียงอย่างเดียว
นายเกียรติศักดิ์ พวงมาลัย อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 239 ม.1 ต.เมืองยาง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ตอนนั้นตนหลงเชื่อสนิทใจ จึงเอาทองหนัก 5 บาทที่มีอยู่ พร้อมเงินสดทั้งบ้านอีก 90,000 บาท ห่อผ้าขาวตามคำแนะนำ สุดท้ายทั้งเงินและทองหายไปทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าที่เสียหายไปตอนนั้นประมาณ 250,000 บาท
หลังทราบข่าวว่าจับกุมตัวได้แล้ว ได้เข้ามาดูหน้าหมอแต๊กอีกครั้ง แต่ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน ถ้าได้พบหน้าและได้คุย จะถามหมอแต๊ก คำแรกคือ”คิดว่าจะบินได้เหมือนนก”นายเกียรติศักดิ์ …กล่าว
สำหรับนายประวิทย์ ชุ่มจิ้งหรีด หรือหมอแต๊ก เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในหลายพื้นที่ ติดคุกที่เรือนจำบุรีรัมย์ในข้อหาเดียวกัน.
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์