รอง ผบ.ตร. ลุยสอบคดี “ปล้นร้านทอง” คาด 3 คนร้ายหนีข้ามฝั่งเมียนมา

วันนี้ (13 ก.พ.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายังพื้นที่ อ.พบพระ เพื่อตรวจสอบที่เกิดบริเวณร้านทองกรุงเทพ 4 สาขาพบพระ หลังวานนี้เมื่อเวลา 13.00 น. โดยประมาณ เกิดเหตุ 3 คนร้ายใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้าไมตีเอ็กซ์ สีเทาเข้ม ทะเบียน 1910 กำแพงเพชร ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในร้านทองแล้วเข้าไปกวาดทองในตู้โชว์กว่า 187 บาท แล้วหลบหนีไป โดยที่เกิดเหตุมีลูกค้าสองสามีภรรยา ชาวเมียนมา ถูกลูกหลงจากกระสูน เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายอาขือ อายุ 29 ปี เสียชีวิต

พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปยัง สภ. พบพระ เพื่อร่วมประชุมเพื่อสรุปแนวทางการสืบสวน การลงมือปล้นร้านทองทั้งเรื่องเส้นทางการหลบหนี โดยเฉพาะการสอบผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่ใช้ชื่อ น. (นอหนู) ที่สอบแล้วให้การว่าถูกคนร้ายทำการปล้นรถไมตี้เอกซ์สีเทาทะเบียน บง 1910 กำแพงเพชร จับ นาย น คนนี้มัดไว้กับต้นไม้แล้วนำรถไปก่อเหตุ

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งที่ในที่ประชุมสืบสวนยังมีการเปิดเผยข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับคนร้าย จำนวน 2 – 3 คนเป็นชาวไทยภูเขามีบ้านพักในพื้นที่ ต.พบพระ อ.พบพระ และบ้านพักในฝั่งเมียนมา ห่างจากชายแดนไทย ราว 13 กิโลเมตร โดยพฤติกรรมนั้นหลังจากก่อเหตุนำรถยนต์กระบะคันแรกสีเทา ขับไปจอดยังบ้านผากะเจ้อ 9 หมู่ที่ ต.พบพระ อ.พบพระ และต่อด้วยรถยนต์โตโยต้าวีโก้แชมป์ บธ 3350 ตาก นำไปจอดที่บ้านยะพอ หมู่ 11 ต.วาเลย์ อ.พบพระ ติดชายแดนไทย คาดว่าจะข้ามไปฝั่งเมียนมา

จากนั้น รอง ผบ.ตร. เดินทางไปยังร้านทองกรุงเทพ 4 สาขาพบพระ พบกับนางติ๋ว อยู่แก้ว ภรรยานายศราวุธ อยู่แก้ว อายุ 45 ปี เจ้าของร้านทองที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงพฤติกรรมคนร้าย หลังจากนั้นเดินทางไปตรวจสอบจุดพบรถยนต์คันแรกที่บ้านผากะเจ้อ เดินทางไปจุดที่สองบ้านยะพอชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อดูจุดจอดรถยนต์คันที่สอง และจุดทิ้งหลักฐานเป็นรองเท้าบุ้ดยางกับหมวกกันน๊อค ทั้งนี้มีการให้สุนัขดมกลิ่มติดตามคนร้ายอีกด้วย

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ทราบว่าคนร้ายน่าจะวางแผนมาเป็นอย่างดีมีแนวโน้มที่จะเดินทางข้ามไปฝั่งเมียนมา แต่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นเส้นทางการหลบหนีในพื้นที่ โดยใช้ภาพก่อนและหลังของวงจรปิดเป็นตัวประมวลเหตุ ส่วนหลักฐานที่พบในรถยนต์ก็จะนำไปเทียบเคียงกับผู้ต้องสงสัยที่ครอบครองรถทั้ง 2 คัน ส่วนคนร้ายเท่าที่ประชุมกันทราบว่าน่าจะมีมากกว่า 3 คน รถคันที่ก่อเหตุรับมาส่งต่อรับกัน ส่วนการประสานฝั่งเมียนมา ก็จะให้ ผู้บัญชาการภาค 6 ประสานไปยังเมียนมา แต่ก่อนประสานจะต้องมีหลักฐานให้มากที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น