ล่าสุดวันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2565) เวลา 11.00น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. พร้อมตำรวจผู้เกี่ยวข้องร่วมกันสอบปากคำ และแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งเงินกู้เหิม ประกอบด้วย นายชาญชัย หรือชาญ เววิชัยโก อายุ 23 ปี, นายธนาวุฒิ หรือจ๊อบ สุขมานพ อายุ 23 ปี, นายบรรพต หรือบิ๊ก แสนโคตร อายุ 22 ปี, นายธนพล หรือทัช บุราโส อายุ 23 ปี ชาว อ.เมือง จ.อุดรธานี และนายวสันต์ หรือโอ เมฆประทีป อายุ 24 ปี, นายวรพล หรือไอซ์ คล้ายนุช อายุ 19 ปี ชาว อ.เมือง จ.พิจิตร
พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น (แบ้งค์กัน) แบบออโตเมติก ลำกล้องขนาด 9 มม.โอโตเมติก 1 กระบอก แม๊กกาซีน 1 อัน เครื่องกระสุนแบ้งค์กัน 5 นัด กล่องใส่อาวุธปืน 1 กล่อง มีดพกสั้น 1 เล่ม มีดดาบยาว 75 เซนติเมตร 1 เล่ม ไม้คมแฝกยาว 60 เซนติเมตร 1 ท่อน และเสื้อผ้าที่สวมใส่ พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ 3 คัน และรถเก๋งสีขาว 1 คัน ที่ใช้ขับขี่ไปก่อเหตุและหลบหนี
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ซ่องโจร ,ร่วมกันประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายในทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง , ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด , ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายของผู้ถูกขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันบุกรุกโดยมีอาวุธ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยมีอาวุธ,ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็น,ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” รวมทั้งสิ้น 7 ข้อกล่าวหา
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ท่านนายกรัฐมนตรี และท่าน ผบ.ตร.ได้เห็นคลิปที่เกิดขึ้นแล้ว จึงได้สั่งการให้ตนลงมาช่วยเหลือ และแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ในคดีนี้เราสามารถยึดบัญชีของลูกหนี้ทั้งหมด 22 ราย วงเงินที่ให้กู้ประมาณแสนกว่าบาท เป็นการเก็บเงินกู้รายวันที่เรียกว่าดอกเบี้ยลอย ร้อยละ 60 ต่อเดือน ซึ่งโหดมาก เมื่อ 2 ปีก่อนก็ได้ลงพื้นที่อีสาน เข้าจับกุมนายทุนเงินกู้มาแล้ว ซึ่งพี่น้องประชาชนเดินร้อนเป็นจำนวนมาก ฝากว่าการปล่อยเงินกู้ให้ปล่อยตามที่กฎหมายกำหนดก็คือร้อยละ 15 ต่อปี ไม่ฉ้อฉลกลโกง ถ้าท่านที่มีพฤติกรรมแบบนี้แล้วยังไม่เลิก ผมเองในฐานรองผู้บัญชาการปราบปรามหนี้นอกระบบ จะเข้าดำเนินการปราบปราม และดำเนินคดีบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
“ฝากเตือนอีกครั้งว่า การเอารัดเอาเปรียบพี่น้องประชาชนจนไม่มีที่ยืน ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีเรือกสวนไร่นาอยู่ เตือนไว้ก่อน ขอให้เลิกพฤติกรรมนี้ ส่วนการทวงเงินทวงหนี้โดยใช้กำลัง ให้รู้ไว้ว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป หากประชาชนมีข้อมูลเบาะแส ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ วันนี้เราเชื่อว่าน่าจะมีนายทุนมากกว่านี้ เชื่อว่ามีนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังด้วย หลังจากนี้เราจะขยายผลต่อไป หากพบว่ามีนายทุนจริง เราก็จะดำเนินคดีกับนายทุนด้วย ประมาณ 1 สัปดาห์ น่าจะได้ทราบกัน ส่วนเรื่องนามบัตรนายทุนเงินกู้ที่แจกตามหน้าบ้านเรือนประชาชน หรือใบปลิวที่ติดตามสถานที่ต่างๆ เรื่องนี้ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศแล้วให้ตรวจสอบที่มาของนามบัตรเหล่านี้ ให้สแกนทุกพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน”
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. เปิดเผยต่อว่า ฝากถึงกลุ่มที่แจกนามบัตรหรือใบปลิวเงินกู้ ผมจะตรวจสอบให้หมด หากพบว่ามีการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายก็จะดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน รวมไปถึงกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีในการโฆษณาปล่อยกู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ตรงนี้เราก็จะเข้าตรวจสอบเช่นกัน เบื้องต้นได้มีการหารือร่วมกับบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกค่ายแล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ในส่วนไหนที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อนเราจะเข้าตรวจสอบให้ทั้งหมด หลังจากนี้จะลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องประชาชน และย้ำให้รับทราบว่า จะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ทั้งสองฝ่ายภายใต้กฎหมายเดียวกัน
หลังจากนั้นผช.ผบ.ตร. ได้เดินทางไปให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียหาย สอบถามเห็นการณืที่เกิดขึ้นและกู้เงินมาจำนวนเท่าไร ดอกเบี้ยเท่าไร ซึ่งจะให้ความเป็นธรรม ซึ่งแนะนำหากเป็นหนี้ส่วนไหนก็ให้ชดใช้เขาไป