“ดร.อานนท์-ศปปส.” เดินหน้าลุยเอาผิดตัวใหญ่ หนุนม็อบคิดล้มล้างฯ

"ดร.อานนท์-ศปปส." เดินหน้าลุยเอาผิดตัวใหญ่ หนุนม็อบคิดล้มล้างฯ

นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. กลุ่มศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ หรือ ศชอ. และ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน พร้อมอ่านคำแถลงการณ์ขอให้มีการจับกุมดำเนินคดีกับแกนนำและผู้บงการตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 10 พย. 2564 ว่า มีกลุ่มบุคคลและเครือข่ายกระทำผิด มาตรา 49 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ให้ยุติการกระทำในทันที แต่กลุ่มบุุคคลดังกล่าวและเครือข่าย ยังไม่หยุดการกระทำ อีกทั้งได้หมิ่นพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นพฤติกรรมต่อเนื่องและเป็นขบวนการ หรือเป็นที่กระทบกระเทือนจิตใจของประชาชนชาวไทยที่จงรักภักดีและเป็นการท้าทายอย่างไม่เคารพกฎหมาย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ดร.อานนท์ เปิดเผยว่า การเดินทางมาแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีทั้งสำนวนฟ้องของ ดร.ณฐพร โตประยูร ที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เป็นข้อมูลที่มาจากการข่าวหน่วยงานความมั่นคงจากทางราชการที่มีการโยงใยสั่งการเข้าไปมีส่วนร่วมในการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยพบรายชื่อผู้ที่อยู่ในเครือข่ายทั้งกลุ่มนักวิชาการ นักการเมือง และนายทุน รวมถึงภาพและคลิปวีดีโอจากชุดสืบของสันติบาล หากทำสำนวนอย่างรอบคอบเชื่อว่า จะสามารถระบุไปถึงตัวการได้ และสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดดังกล่าวตามมาตรา113 และ 116 ได้

ส่วนเด็กและเยาวชนที่หลงผิดก่อเหตุ เชื่อว่า ปัจจัยที่ทำให้กระทำการดังกล่าวอาจมีสาเหตุมาจากการเรียนมาเยอะ อาจฉลาด แต่ขาดความเฉลียว บวกกับความอหังการ หรือ ร้อนวิชา ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของเด็กที่ผู้บงการนำมาใช้เป็นจุดอ่อน วอนสังคมโอบกอด และอย่ารังเกียจเด็ก หากคิดกลับใจ แต่ฝากไปยังเด็กและเยาวชนว่าจะต้องถูกดำเนินคดีก่อนแต่หากให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนก็จะสามารถกั้นตัวให้ถูกเป็นพยานได้

 

ดังนั้นขออย่าตกใจซึ่งถือเป็นระเบียบวิธีการพิจารณาความทางอาญา โดยเยาวชนเหล่านี้ต้องถูกกันตัวให้ออกมาเป็นพยาน เขื่อว่าจะให้การซัดทอดไม่ว่าจะเป็นหลักฐานทั้งทางปัญญาความคิด การสั่งการ การจัดการ หรือเส้นทางการเงิน เพื่อให้สามารถดำเนินคดีกับตัวผู้บงการได้อย่างมีหลักฐานแน่นหนาโดยจะกลับมาติดตามการดำเนินการของตำรวจอีกครั้งนับถัดไปอีก 1 เดือน

ขณะที่ นายอานนท์ เปิดเผยว่า การแจ้งความผู้ที่ดำเนินคดีหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ไปหลายคดี พบเด็กและเยาวชน ส่วนใหญ่เป็นผู้กระทำผิดในคดีดังกล่าวนี้ รู้สึกถอดใจทุกครั้ง ตนเองในฐานะผู้เป็นพ่อ เรียกร้องไปยังเด็กและเยาวชนที่หลงผิดหรือที่อยู่ระหว่างคิดจะกระทำความผิดให้กลับเนื้อกลับตัวกลับใจกลับมาให้เบาะแสว่าใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือตัวบงการใครเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชน

อย่างไรก็ตาม สำหรับการกระทำผิดดังกล่าวเวลาล่วงเลยมานานกว่า 3 เดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่ากระบวนการดังกล่าวและเครือข่ายเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 49 แต่กลับไม่มีการดำเนินคดีถือเป็นคดีใหญ่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเร่งดำเนินการเพื่อปกป้องชาติบ้านเมืองและหลักนิติรัฐต้องดำเนินการจับกุมตัวผู้บงการและต้องป้องกันเยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อหรือเครื่องมือทางการเมืองซึ่งอาจโดนการหลอกใช้ การให้อามิสสินจ้างหรือการขู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น