เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจอีกครั้ง สำหรับกรณีการลดโทษนักโทษแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เมื่อนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผู้ดำเนินรายการทางสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี กระบอกเสียงของตระกูลชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ด่วน! เสื้อแดงอุบล 2 คนสุดท้ายจากคดีปี 53 “อาจารย์ต้อย” และ “ชัชวาลย์” ได้รับการปล่อยตัวตามเกณฑ์ลดโทษหลังถูกศาลฎีกาจำคุกตลอดชีวิตตั้งแต่ปี 58
2 อดีตแกนนำแดงอุบลฯพ้นคุก คดีเผาศาลากลางปี 53 ทั้งที่ศาลฎีกาคุกตลอดชีวิต แต่ติดจริงแค่ 6 ปี
ข่าวที่น่าสนใจ
สำหรับ “อาจารย์ต้อย” มีชื่อเต็มว่า นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือ ดีเจต้อย ขณะที่ ชัชวาลย์ มีชื่อเต็มว่า นายชัชวาลย์ ศรีจันดา ทั้งสองคนเป็นแกนนำ นปช.จังหวัดอุบลราชธานี ถูกจับกุมคดีเป็นแกนนำเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีจำนวน 21 คน แต่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องและอัยการโจทก์ไม่ติดใจยื่นฎีกาจำนวน 8 ราย ทำให้เหลือผู้ต้องหาในขั้นฎีการวม 13 คน
โดยคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2558 ศาลฎีกา ได้แก้โทษจำคุกนายพิเชษฐ์ จากเดิม 1 ปี เป็นประหารชีวิต แต่ลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่นายชัชวาลย์ จากยกฟ้อง ศาลฎีกาแก้โทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยคนอื่นๆอีก 11 คน ศาลฎีกาแก้โทษคำพิพากษาเป็นจำคุกทั้งหมด ซึ่งมีตั้งแต่ 2 ปี ไปจนถึง 33 ปี
จากกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับการลดโทษผู้ต้องขังคดีร้ายแรงที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศอีกครั้งว่า ราชทัณฑ์มีอำนาจเหนือตุลาการหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้เกิดกรณีการลดโทษผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว ที่ได้ลดโทษแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ซึ่งกรณีของ ดีเจต้อย และนายชัชวาลย์ ก็เช่นเดียวกัน เพราะเป็นคดีร้ายแรง สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อสถานที่ราชการและประเทศ การถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตถือว่าเหมาะสม แต่แล้วนับจากวันที่ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ เพียงแค่ 6 ปี 2 อดีตแกนนำเสื้อแดงอุบลราชธานี ก็ได้รับอิสรภาพ ออกมาใช้ชีวิตนอกเรือนจำ ซึ่งก็ต้องจับตาว่ากรมราชัณฑ์จะออกมาชี้แจงเรื่องนี้หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-