“บิ๊กป้อม” เปิดโครงการระบบเครือข่ายน้ำ สกลนคร ลดรายจ่าย เสริมรายได้ชุมชน

"บิ๊กป้อม" เปิดโครงการระบบเครือข่ายน้ำหนองหวาย จ. สกลนคร ทส. เพิ่มน้ำต้นทุน พร้อมระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ลดรายจ่าย เสริมรายได้ชุมชน

จากนโยบายการบริหารจัดการน้ำโดยการเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำของภาครัฐภายใต้การกำกับของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายภารกิจให้หน่วยงานภายใต้กำกับเร่งดำเนินการกระจายน้ำต้นทุนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ และเสริมรายได้ให้เกษตรกร ในช่วงสถานการณ์โควิด กรมทรัพยากรน้ำ โดยนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีฯ ได้นำนโยบายดังกล่าวมาสู่การปฏิบัติ โดยวางแผนและกำหนดโครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งน้ำ พร้อมเสริมระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่นอกเขตชลประทานทั่วประเทศดั่งเช่นระบบส่งน้ำเครือข่ายน้ำหนองหวาย จังหวัดสกลนคร

 

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการ และติดตามความก้าวหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ พร้อมทั้งเปิดโครงการระบบเครือข่ายน้ำหนองหวาย ต.หนองลาด อ.เมือง จ.สกลนคร

รองนายกฯ ประวิตร เปิดเผยว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและผลสัมฤทธิ์ของโครงการที่รัฐบาลได้จัดสรรเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ และได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องประชาชนชาวสกลนคร ระบบเครือข่ายน้ำหนองหวายนี้ประสบความสำเร็จจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน นับได้ว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายน้ำ เพิ่มน้ำต้นทุนให้มีมากขึ้น เมื่อมีน้ำเพียงพอก็สามารถบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำของภาคครัวเรือน และช่วยเสริมภาคการเกษตรได้หลายพันไร่ สามารถต่อยอดอาชีพอื่นๆ ในพื้นที่ได้ ที่สำคัญเมื่อรัฐบาลลงทุนสร้างให้แล้ว ก็ขอให้จัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำขึ้นมาดูแลรักษาให้สามารถใช้ประโยชน์ให้ได้ยาวนานด้วย รัฐบาลมีความห่วงใยและมุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมุ่งมั่นขับเคลื่อนโครงการ พัฒนา ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ที่จำเป็นให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำ ต้องแก้ไขให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ให้เกิดความมั่นคง ความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจของพวกเราทุกคน จะนำมาซึ่งความสำเร็จตามที่รัฐบาลมุ่งหวัง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า แหล่งน้ำหนองหวาย ต.หนองลาด อ.เมือง จ.สกลนคร เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติมีขนาดพื้นที่กว่า 1,400 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำติดริมลำน้ำอูน เป็นแหล่งรองรับน้ำฝนในพื้นที่บริเวณโดยรอบก่อนที่จะไหลลงสู่ลำน้ำอูน โดยหนองหวายจะทำหน้าที่เป็นแก้มลิงรองรับน้ำและช่วยบรรเทาไม่ให้น้ำในลำน้ำอูนล้นตลิ่งและสร้างความเสียหายแก่ประชาชนในพื้นที่โดยรอบ ในช่วงหลายปีมานี้แหล่งน้ำหนองหวายมีสภาพตื้นเขินและไม่สามารถกักเก็บน้ำได้เต็มศักยภาพ ประกอบกับลำน้ำอูนมีปริมาณน้ำหลากบ่อยครั้ง ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบหนองหวายประสบปัญหาน้ำท่วมขังในฤดูฝนและขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งเป็นประจำทุกปี ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการ พัฒนา ปรับปรุง ฟื้นฟู อ่างเก็บน้ำหนองหวาย พร้อมเสริมระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ สามารถแก้ไขภาวะขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรจำนวนกว่า 1,150 ไร่ และสนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค จำนวน 600 ครัวเรือน ประชากรกว่า 2,200 คน เพิ่มประสิทธิภาพการกระจายน้ำครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ สำหรับการพัฒนาหนองหวายในระยะที่ ๒ เพื่อให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำ การอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ การเชื่อมโยงแหล่งน้ำ และการเพิ่มพื้นที่รับประโยชน์ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล กรมทรัพยากรน้ำได้กำหนดแนวทาง

การอนุรักษ์ ฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งน้ำพร้อมระบบกระจายน้ำในพื้นที่โดยการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ ปริมาณรวม 20.6 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ขยายพื้นที่รับผลประโยชน์ด้วยระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์อีกประมาณ 2,867 ไร่ รวมทั้งสิ้น 4,017 ไร่ ซี่งจะส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 900 ครัวเรือน ระบบนิเวศมีการฟื้นตัว มีน้ำหมุนเวียนใช้ได้ตลอดทั้งปี โดยกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินการประมาณ 1,664.30 ล้านบาท และได้วางแผนขอสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นงบผูกพันระหว่างปี พ.ศ 2566 – 2568 ทั้งนี้กรมทรัพยากรน้ำได้พัฒนาระบบตรวจสอบและติดตามการใช้น้ำของกลุ่มผู้ใช้น้ำแบบเรียลไทม์ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบฐานข้อมูลการใช้น้ำจะถูกใช้เพื่อการบริหารจัดการในเชิงยุทธศาสตร์ระดับประเทศต่อไป

 

 

 

ดร.ประยุทธ์ ไกรปราบ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำเสริมว่า เป้าหมายการพัฒนาแหล่งน้ำหนองหวาย เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิต ครอบคลุมมิติด้าน เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ด้วยการนำหลักคิด บันได 3 ขั้น คือ การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ก้าวสู่ความมั่งคั่งของเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน มาปรับใช้ ในด้านสังคมเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมให้ประชาชน ได้ตระหนักรู้ หวงแหนทรัพยากรและใช้อย่างชาญฉลาด ด้านสิ่งแวดล้อมมีการปรับพื้นที่ตื้นลึกเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของกระแสน้ำให้สัตว์น้อยใหญ่ได้มีที่อยู่อาศัย วางไข่และทำให้ระบบนิเวศฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงเชื่อมกับลำน้ำอูนช่วยให้สามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ด้านเศรษฐกิจ สามารถเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนโดยนำน้ำที่กักเก็บไว้มาใช้ในฤดูแล้ง สำหรับการเพาะปลูกพืชผักเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องชื้อกิน เหลือแบ่งขาย ก้าวสู่ความมั่งคั่ง ส่งเสริมสนับสนุนให้กลุ่มผู้ใช้น้ำรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน ปลูกพืชเศรษฐกิจร่วมกัน แปรรูปสร้างผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของชุมชน ในอนาคตจะมีการพัฒนาให้เป็น

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครูบาอริยชาติ เกจิภาคเหนือวัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย สร้างพระพุทธเมตตา จากหยกรัสเซียใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 10 ตัน
นายกฯ-สามี พา "น้องธิธาร" ลูกสาว วิ่งเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า
กระทรวงดีอี – ดีป้า เปิดศึกบิน – ซ่อมโดรนเกษตรชิงแชมป์ประเทศไทย ในรายการ “Thailand Agriculture Drone Competition 2024”
รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ฯ นำ จนท.ตรวจสารเสพติดทหารใหม่ 2,911 นาย เพื่อค้นหาผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
รถบรรทุกปูนพลิกคว่ำขวางถนนรถติดยาวหลายกิโล
รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภาคอีสาน คุมเข้มแผนบริหารจัดการน้ำ พร้อมเร่งขับเคลื่อนมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้ง
เลือกตั้งสหรัฐ: ทั้งสองพรรคมั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง
แคปซูลส่งกลับ 'เสินโจว-18' ของจีนแตะพื้นโลกปลอดภัย
ผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความ "หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง" เอาผิดฐานฉ้อโกง หลังหลอกให้สั่งซื้อวัตถุมงคลแพงลิ่ว
แวะปั๊มก่อนเลย พรุ่งนี้น้ำมันขึ้นราคา เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับทุกชนิด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น