ถึงคราวต้องรื้อระบบ “ราชทัณฑ์”

เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจอีกครั้ง สำหรับกรณีการลดโทษนักโทษ แบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ของ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม หลังจาก นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือ ดีเจต้อย และนายชัชวาลย์ ศรีจันดา สองแกนนำ นปช.จังหวัดอุบลราชธานี นักโทษคดีเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ทั้งที่โดนคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต แต่ติดจริงเพียง 6 ปี อีกทั้งย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็มีกรณีนักโทษคดีจำนำข้าว ได้ลดโทษกันแบบจัดหนักจัดเต็ม จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ถึงขั้นประชดประชันว่า “มีคุกไว้ทำไม” และยังตั้งคำถามว่า “ราชทัณฑ์” มีอำนาจเหนือตุลาการหรือไม่? ร้อนถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบขั้นตอนการอภัยโทษเป็นการด่วน

ทั้งนี้ทีมข่าวท็อปนิวส์ได้ตรวจสอบพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษแต่ละปี ที่มีประกาศออกมาเนื่องในวันสำคัญ พบประเด็นสำคัญอยู่ที่ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ มาตรา 18 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ผู้ที่มีอำนาจตรวจสอบคัดกรองรายชื่อนักโทษ ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ได้แก่ คณะกรรมการซึ่งประกอบไปด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งท้องที่ ผู้พิพากษาศาลแห่งท้องที่หรือตุลาการศาลทหารแห่งท้องที่หนึ่งคน และพนักงานอัยการแห่งท้องที่หรืออัยการทหารแห่งท้องที่หนึ่งคน รวมเป็น 3 คน ซึ่งเมื่อตรวจสอบรายชื่อนักโทษที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษเสร็จแล้ว ให้ส่งรายชื่อต่อศาลแห่งท้องที่ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับ”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

การมีคณะกรรมการคอยทำหน้าที่ตรวจสอบคัดกรองรายชื่อนักโทษ ดูเหมือนจะรอบคอบ แต่กลับพบช่องโหว่ เพราะ ในมาตรา 18 มีการบัญญัติเพิ่มเติมว่า “ถ้าการแต่งตั้งกรรมการบางคนอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการตามที่เห็นสมควรเป็นกรรมการแทนได้”

ข้อความ “อาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการปฏิบัติหน้าที่” จึงทำให้การพระราชทานอภัยโทษ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ใช้อำนาจตามบทบัญญัติส่วนนี้ ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบผู้ซึ่งจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยมอบให้ผู้บัญชาการเรือนจำในแต่ละท้องที่ เป็นกรรมการในโควต้าผู้ว่าราชการจังหวัดแทน เพราะผู้ว่าฯแต่ละจังหวัด อาจจะเกิดความไม่สะดวกในการมาทำหน้าที่ตรงนี้ เนื่องจากภาระงานก็มีเยอะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

การตั้งให้ผู้บัญชาการเรือนจำในแต่ละท้องที่เป็นกรรมการแทนโควต้าผู้ว่าฯ ทำให้กระบวนการพิจารณารายชื่อนักโทษที่จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษหรือลดโทษ แทบจะอยู่ในการพิจารณาของผู้บัญชาการเรือนจำแต่เพียงผู้เดียว ไล่มาตั้งแต่การเสนอชื่อนักโทษ การตรวจสอบคัดกรอง แม้ตามบทบัญญัติมาตรา 18 จะมีกรรมการอีก 2 คน คือ ผู้พิพากษา และอัยการ แต่ต้องยอมรับความจริงว่า เมื่อรายชื่อนักโทษที่เข้าเกณฑ์ได้รับการลดโทษถึงมือผู้พิพากษา และอัยการแต่ละจังหวัด ก็เพียงแต่เซ็นเอกสารไปตามหน้าที่เท่านั้น จะให้มาไล่ตรวจสอบรายชื่อนักโทษนับหมื่นๆคน คงไม่สามารถทำได้

 

ดังนั้นช่องโหว่ของกฎหมายที่ว่ามาทั้งหมด ทำให้เราได้เห็นผู้ต้องขังคดีร้ายแรง สร้างความเสียหายให้กับสังคมและประเทศอย่างหนัก โดนโทษจำคุก40-50ปี หรือ ตลอดชีวิต แต่ติดจริงเพียงไม่กี่ปี ก็ได้รับอิสรภาพ ไม่สาสมกับสิ่งที่ได้สร้างความเสียหายไว้ และอาจเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่บางคนแสวงหาผลประโยชน์จากผู้ต้องขัง เพื่อแลกกับการได้ลดหย่อนโทษ เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องจะต้องสังคายนากระบวนการลดโทษนักโทษเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นต่อไปอาจไม่มีใครเกรงกลัวการกระทำผิดกฎหมายหรือสร้างความเสียหายให้บ้านเมืองอีกต่อไป

 

 

 

อ่านเพิ่มเติม พระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๖๔

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สพฐ. ชูศึกษานิเทศก์ทั้งประเทศ กลไกขับเคลื่อน "เรียนดี มีความสุข" สร้างคุณภาพสู่ห้องเรียน
“เต้ อาชีวะ” เดือด! จัดหนัก UN ปล่อยต่างด้าวล้นรพ.รัฐ แย่งคิวคนไทย
ปัตตานีระทึก คนร้ายชักปืน จี้ "พนง.ร้านสะดวกซื้อ" ชิงเงินสด 1.2 ล้าน หนีลอยนวล
เตรียมพบเทศกาลนานาชาติ พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2024 "จันทบุรีนครอัญมณี" ปีที่ 5 ชูเอกลักษณ์เมืองจันท์ อัญมณีอันเลื่องชื่อ
“สมศักดิ์” นำร่อง “ตู้ห่วงใย” บริการแพทย์ทางไกลเชิงรุกในชุมชน ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ 
"พงษ์ศักดิ์" ยื่นร้องกกต. ขอระงับรับรองผลเลือกตั้งนายกอบจ.ขอนแก่น ชี้พบเหตุหาเสียงส่อผิดกม.
“กฤษอนงค์” ไร้เงาคนยื่นประกัน นอนคุกคืนแรก ด้าน “บอสพอล” มอบทีมกม.ยื่นค้านประกันตัว
‘ทะเลสาบน้ำเค็ม’ โผล่กลางทะเลทรายในมองโกเลียใน
เปิดศึก "พระ" ปะทะคารม "แม่ชี" ปมไม่จ่ายค่าไฟ
หนุ่มตีนผีขับรถ ชนพนักงานกวาดถนน สาหัส ซิ่งหนี เมืองดี ล้อมจับ เป่าขึ้น 77 มก.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น