วันที่ 18 ก.พ. 2565 เจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปสำรวจความเสียหาย หลังจากมีผู้นำหมู่บ้านแจ้งว่าช้างป่าบุกเข้าไปพังบ้านเรือนชาวบ้าน ที่บ้านลำนางรอง หมู่ 1 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์
เบื้องต้นพบว่ามีบ้านของนายประสิทธิ์ อายุ 51 ปี และนางกัลยา โคตรหา อายุ 55 ปี สองสามีภรรยา อยู่เลขที่ 190 หมู่ 1 บ้านลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้รับความเสียหายทั้งหลัง
นายประสิทธิ์ โคตรหา เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของคืนที่ผ่านมา ภรรยาลงจากบ้านไปปัสสาวะ ที่ห้องน้ำข้างบ้าน ห่างจากตัวบ้านซึ่งปลูกคล้ายกระท่อมประมาณ 10 เมตร จากนั้นไม่นานภรรยากลับมาปลุกหน้าตื่นว่า”ช้างมา”ตนจึงบอกให้ภรรยารีบหนีไปก่อน แต่ต้องคลานไป หลังจากภรรยาออกไปแล้ว กำลังจะควานหาเสื้อผ้าและสิ่งของจำเป็น ได้ยินเสียงช้างเดินรอบตัวบ้าน ตนจึงได้แต่เงียบและคอยลุ้นอย่างเดียว จากนั้นช้างป่าตัวนี้ ซึ่งทราบชื่อต่อมาว่าเป็นเจ้า”รถถัง”ที่ จนท.ตั้งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ใช้งวง พังบ้านทีละนิด กระทั่งบ้านพังลง ส่วนตนถูกไม้ทับเอาไว้ เจ้ารถถัง พยายามใช้งวงควานหาตน แต่ไม่เจอ ประมาณ 5 นาที เจ้ารถถังจึงเดินจากไป ก่อนภรรยาจะไปแจ้งให้ชาวบ้านให้มาช่วยเหลือ ที่ผ่านมาช้างเคยเข้ามาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้อันตรายและรอดชีวิตมาได้อย่างปาฎิหาริย์
นางกัลยา โคตรหา ภรรยานายประสิทธิ์ เล่าว่า ตอนพบช้างครั้งแรก ตกใจมาก เพราะเห็นเงาตัวใหญ่ หลังจากสามีบอกให้รีบไปก่อน ตนได้คลานลอดรั้วหนามไป ตาไปชนใส่ไม้แหลมได้รับบาดเจ็บ แล้วคลานไปจะเอาชีวิตรอดอย่างเดียว กระทั่งไปหลบซ่อนตัวบ้านอีกหลังหนึ่งของตน ที่สร้างยังไม่เสร็จ ห่างกันประมาณ 50 เมตร จนแน่ใจว่าช้างป่าไปแล้ว จึงไปแจ้งให้ผู้นำหมู่บ้านมาช่วยเหลือสามีแล้วรอดมาได้ดังกล่าว
ด้านนายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง บอกว่าช้างตัวนี้เป็นช้างตัวผู้ อายุประมาณ 40 ปี ตั้งชื่อเอาไว้ว่า”เจ้ารถถัง”เป็นช้าง ตัวใหญ่ 1 ใน 3 ของช้างที่ได้ใส่ ปลอกคอ GPS ติดตัว เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว
ส่วนสาเหตุที่เจ้ารถถัง เข้ามาบุกบ้านเรือนชาวบ้าน คาดว่าได้กลิ่นขนุนสุก และผลไม้ จึงเดินเข้ามากิน ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกเข้าชุมชน ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีโครงการจะทำแนวคูกันช้าง เสริมด้วยต้นไผ่ เพื่อไม่ให้ช้าง ปีนข้างปีนข้ามได้ เบื้องต้นต้องแจ้งเตือนชาวบ้านให้ระวัง เพราะช้างป่าแทบทุกตัวมีความดุร้ายอยู่แล้ว.
ภาพ/ข่าว วันชัย ผิวอร่าม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์