“เจ้าของที่ดิน”เปิดใจ หลังเกิดประเด็น”เจ้าคุณแจ๊ค”ทุจริตเงินทอนวัด เล่านาทีขายที่ดิน

เจ้าของที่ดิน เล่านาทีขายที่ดินให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ คนสนิท “เจ้าคุณแจ๊ค” รับเงินสดบนกุฏิ มีเจ้าหน้าที่ธนาคารคอยนับเงิน คุมกันอย่างดี

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ทำการตรวจสอบงบอุดหนุนวัดของสํานักงานพระพุทธศาสนา ช่วงระหว่างปี 2550-2559 ของจังหวัดนครนายก จบพบการทุจริตเงินทอนวัดและสามารถจับกุม พระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ๊ค เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน จ.นครนายก หลังทุจริตเงินอุดหนุนจากสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่อนุมัติให้กับวัดต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก 12 วัด งบประมาณวงเงินกว่า 123 ล้านบาท และมีส่วนเกี่ยวข้องกับ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา ผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ในขณะนี้

ขณะเดียวกัน จากการสืบสวนพบว่า เจ้าคุณแจ๊ค และ นายนพรัตน์ ได้นำเงินจากการทุจริตไปซื้อที่ดินทรัพย์สินต่างๆ จํานวนมาก มีหลักฐานยืนยันชัดเจนแล้วว่า เจ้าคุณแจ๊ค และ นายนพรัตน์ ทั้งคู่ได้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครนายก ที่มีความสนิทกัน จํานวน 2 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 10 ไร่ มูลค่ารวมประมาณ 18.6 ล้านบาท โดยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทนในลักษณะอําพรางปกปิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทําที่ส่อไปในทางทุจริต เป็นความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงิน และจากการจับกุมเมื่อวานนี้ยังพบว่าภายในกุฏิของเจ้าคุณแจ๊ค เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ยังพบขวดสุราและถุงยางอนามัยถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกุฏิ ทำให้ บรรดาศิษยานุศิษย์และชาวบ้านในพื้นที่ ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดทีมข่าว Top News ได้เข้าไปพูดคุยกับพระลูกวัดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบ พระสมาน ปัญญาวุฒิโท พระลูกวัด เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเองเพิ่งเข้ามาบวชได้ประมาณ 2-3 พรรษา เนื่องจากมีความศรัทธาเจ้าอาวาสและชื่อเสียงวัด จากที่ตนเองรู้จัก เจ้าคุณแจ๊ค ท่านเป็นคนดีเผื่อแผ่เมตตาต่อชาวบ้าน ซึ่งตนเองก็ไม่เชื่อว่าเจ้าคุณแจ็คจะเป็นคนกระทำเรื่องการฟอกเงินคดีเงินทอนวัด และไม่เชื่อว่า ท่านจะดื่มสุรา และมีเพศสัมพันธ์กับสีกา คิดว่าสุราและถุงยางอนามัยที่พบในกุฏิเจ้าอาวาสนั้น เป็นของลูกศิษย์ลูกหา เพราะโดยปกติใครจะเข้าออกกุฎินั้นก็ได้ ตนเองยังคงศรัทธาเจ้าอาวาสเหมือนเดิม

จากนั้นทีมข่าว Top News ยังได้ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ดินของเจ้าคุณแจ๊ค ที่ได้ข้อมูลมาว่า ร่วมมือกับ นายนพรัตน์ กว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านคนสนิทจนพบเจอกับ นายอุดม เอื้อใจ อดีตเจ้าของสวนมะยมชิด อุดมการเกษตร ท่าด่าน เจ้าของที่ดินที่ขายให้กับ เจ้าคุณแจ๊ค ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเองได้ทำธุรกิจผลไม้มาหลายปีแล้วจนกระทั่ง เมื่อช่วงประมาณปี พ.ศ.2554 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้สภาพทางการเงินติดขัด จนเป็นหนี้สิน จำนวน 7 ล้านบาท จึงได้เข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าคุณแจ๊คที่วัดเขาทุเรียนว่า ให้ช่วยหาคนมาซื้อพื้นที่ดิน ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก เนื้อที่ 7 ไร่ ตามโฉนดที่ดิน เลขที่ 473831

ต่อมาในช่วงปี พ.ศ.2557 เจ้าคุณจะได้ติดต่อกลับมาว่า หาคนซื้อได้แล้ว จึงนัดเข้ามาพูดคุยพบว่า ผู้ขอซื้อคือ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จึงได้ตกลงขายที่ดินให้ โดยไม่ได้ทำสัญญา ใช้เพียงแค่สัญญาใจ จึงได้ทำการนัดรับเงินที่วัดเขาทุเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยนับเงิน และดูแลเงินให้ โดย นายนพรัตน์ ขอแบ่งจ่ายเงินเป็นจำนวน 3 งวดทั้งหมด 17.5 ล้านบาท

เมื่อได้เงินครบแล้วจึงนัดกันเข้าไปเซ็นสัญญาโอนชื่อเจ้าของที่กรมที่ดิน จังหวัดนครนายก แต่ทนไม่ได้รอนายนพรัตน์มาเซ็นสัญญา จึงได้ทำการเซ็นเอกสารล่วงหน้าไว้ให้ เพราะรอหลายชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มา และคิดว่าเราซื้อขายกันจบแล้ว เขาจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของเขา วันถัดมาตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับกรมที่ดินทราบว่า มีคนอื่นคาดว่าเป็นครอบครัวหรือญาติของ นายนพรัตน์ เป็นคนมาเซ็นสัญญาถ่ายโอนชื่อ ตนจึงไม่ได้สนใจอะไรรู้แค่ว่ามีคนมารับเซ็นรับเอกสารที่ดินแล้วก็พอ

นายอุดม เล่าอีกว่า หลังจากซื้อขายกันเสร็จเมื่อปีพ.ศ 2557 จนถึงปัจจุบันก็ไม่ได้ติดต่อกับนายนพรัตน์ อีกเลย อีกทั้งตนยังต้องมาดูแลพื้นที่ 7 ไร่ ที่ขายไป แบบฟรีๆ ซึ่งมีค่าใช้จ่าย มากกว่า 1 ล้านบาท เพราะต้องดูแลตัดหญ้าใส่ปุ๋ย จนมา 2 ปีสุดท้าย ต้องปล่อยทิ้งไว้เพราะออกค่าใช้จ่ายเองไม่ไหว เมื่อทราบข่าวว่า เจ้าคุณแจ๊ค มีพฤติกรรมฟอกเงินจากคดีเงินทอนวัด ร่วมกับนายนพรัตน์ ตนก็ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะรู้จักกันมานานและตัวท่านเองก็มีความเมตตาต่อชาวบ้าน เพราะตนก็ได้รับความช่วยเหลือมาโดยตลอด จนสามารถปลดหนี้ได้ ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะคิดว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะไม่ทราบความเป็นมาของ เจ้าคุณแจ๊ค และ นายนพรัตน์ เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ดร.นิว" สวดยับ "ก๊วนแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ" รับใช้พรรคส้ม ผิดหวังสุดนำชื่อมธ.เคลื่อนไหวล้มล้างสถาบันฯ
ยิ่งใหญ่ตระการตา นางรำกว่า 800 ชีวิต รำบวงสรวง "เจ้าพ่อหมื่นขุนวัง" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง อ.บัวเชด พร้อมชมการแข่งขันตำส้มตำลีลา ที่สนุกสุดมันส์ฮา
เปิดใจพี่สาว ลุงผูกคอประชดลูกหนี้ หน้าเทศบาล ตัดพ้อคิดซะว่าเป็นกรรมของน้อง
ต้นสังกัด ประกาศปลด "เฟื่อง" นักร้องนำวง versus หลังถูกรวบคดีเอี่ยวเว็บพนันฯ
อำเภอพระนครศรีอยุธยา-บางไทร คว้ารางวัลชนะเลิศนักร้องเสียงทองเพลงลูกทุ่ง ในการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปท.งาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก”
"พิชัย" เดินหน้าเต็มสูบ ถกหอการค้า-อุตสาหกรรมญี่ปุ่น นักลงทุนยักษ์ใหญ่ ชวนขยายลงทุนไทย ยันพณ.พร้อมอำนวยความสะดวกเต็มที่
เช็กด่วน อย.เร่งเรียกคืน ยาด็อกซีไซคลิน 7 รุ่นการผลิต ผิดมาตรฐาน
"รมว.ยธ." แจงขั้นตอนย้าย “โกทร” มาเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
โครงหลังคาโกดังสูง 10 เมตรถล่ม คนงานร่วง-เหล็กทับร่างซ้ำ เจ็บสาหัสเพียบ
"ไทยสมายล์บัส" ตั้งเป้าปี 68 พัฒนาระบบเทคโนโลยี ดันเป้าผู้โดยสารโตต่อเนื่อง จ่อรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น