“ดร.นิว” ขุดกลับ ชี้เอกสาร “พล.ต.ต.ปวีณ” ของปลอม

"ดร.นิว" จับโป๊ะเอกสาร "พล.ต.ต.ปวีณ" ชี้ปลอมไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ จวกตกเป็นเครื่องมือกบฏใส่ร้ายสถาบันฯ

ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กเรื่อง ปลอม…ปลอมตั้งแต่หัวกระดาษ
สงสารตำรวจดีต้องลี้ภัย แต่ทำไมถึงกลายเป็นเครื่องมือของกบฏ?

โดย ดร.นิว ระบุว่า ก่อนอื่น ผมต้องขอชื่นชม พลตำรวจตรีปวีณ พงศ์สิรินทร์ ในความเป็นตำรวจน้ำดีและมีผลงานเชิงประจักษ์จำนวนไม่น้อย ตลอดจนรู้สึกเห็นใจที่ท่านต้องลี้ภัยไปยังต่างประเทศ ผมเห็นด้วยกับการตรวจสอบผู้มีอำนาจในรัฐบาล หากมีผู้ที่อาจเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาในอดีตหลงเหลืออยู่ เพราะการต่อสู้กับขบวนการค้ามนุษย์เป็นสิ่งที่ดีงาม กล้าหาญ และเป็นสิ่งที่ถูกต้องทั้งในแง่ของกฎหมายและหลักมนุษยธรรม

แต่การต่อสู้นั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง ไม่ใช่การจัดฉากแสดงละครปั่นกระแสดราม่า ไม่ใช่การชี้นำให้คิดไปเองโดยปราศจากหลักฐานที่สามารถยืนยันได้จริง แล้วคุณปวีณก็ไม่ควรตกเป็นเครื่องมือของพวกกบฏล้มล้างการปกครอง ที่พยายามปั้นน้ำเป็นตัว จัดฉากแสดงละครทั้งในและนอกรัฐสภา เพื่อกุเรื่องเชื่อมโยงไปสู่การบิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยพวกกบฏกลุ่มนี้ ภายนอกสร้างภาพเป็นผู้ดี เสแสร้งแสดงละครในบทพระเอกนางเอก แต่ภายในเลวทรามต่ำช้า มีใจคออำมหิต โหดเหี้ยมยิ่งกว่าเครือข่ายค้ามนุษย์ เพราะโยนบาปบิดเบือนให้ร้ายสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการยุยงปลุกปั่นชี้นำให้เกิดการลุกขึ้นสู้ หวังหลอกใช้ชีวิตของเพื่อนมนุษย์ในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เลียนแบบการปฏิวัติฝรั่งเศสที่ล้าหลังและป่าเถื่อน

ข่าวที่น่าสนใจ

ดร.นิว เปิดเผยด้วยว่า จากการตรวจสอบเอกสารที่นำมาอ้างว่าเป็น “ใบสมัครหน่วย สนง.นรป.๙๐๔” ที่ถูกส่งแฟกซ์มาให้ พลตำรวจตรีปวีณ พงศ์สิรินทร์ ในเบื้องต้นพบว่ามีพิรุธจำนวนหลายประการ

  • 1.จากการค้นหาด้วย google แบบง่ายๆ พบว่า “สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ” ใช้ตัวอักษรย่อ “สง.นรป.” ไม่ใช่ “สนง.นรป.” ดังนั้น เอกสารที่ขึ้นต้นด้วย สนง.นรป.๙๐๔ จึงน่าจะเป็นเอกสารปลอม
  • 2.มีการพิมพ์ปะปนกับการเขียน และมีการแก้ไขแบบไม่เรียบร้อยในหลายๆจุด ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว ดูไม่น่าจะเหมาะสมในฐานะที่เป็นเอกสารสำคัญทางราชการ ตลอดจนความเป็นข้าราชการระดับสูงที่มีทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิอย่าง พล.ต.ต.ปวีณ
  • 3.มีการแสดงความสับสนในข้อมูลของตนเอง
    – สถานภาพ: มีการขีดในช่องสมรส ก่อนขีดฆ่าแบบลวกๆ แล้วเปลี่ยนเป็นขีดในช่องหย่าร้าง
    – บิดา: มีการขีดทั้งในช่องมีชีวิตอยู่ และช่องถึงแก่กรรม
  • 4.การปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่งที่ไม่ครบถ้วน โดยดูเหมือนว่ามีความพยายามในการเขียนระบุการปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่งให้มีความละเอียด แต่ก็ยังขาดความสมเหตุสมผล เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2558 แต่บันทึกถึงแค่ พ.ศ.2553 จึงขาดเหตุการณ์ปรับตำแหน่งในห้วง พ.ศ.2554-2558 ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายที่สำคัญอีกหลายตำแหน่ง และเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นนี้โดยตรง

ด้วยข้อพิรุธต่างๆ ที่ได้กล่าวมาในข้างต้นนี้ จึงน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม เพื่อใช้ในการกุเรื่องเชื่อมโยงไปสู่การบิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่? หากคุณปวีณยังพอมีอุดมการณ์ความเป็นตำรวจน้ำดีหลงเหลืออยู่ คุณปวีณควรกลับตัวกลับใจ แล้วหันมาช่วยกันปราบกบฏ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร โดยศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ระบุว่าม็อบสามนิ้ว ซึ่งมีพวกกบฏกลุ่มนี้อยู่เบื้องหลัง ได้ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ดร.นิว ทิ้งท้ายอีกว่า ช่างน่าเสียดายที่ตำรวจน้ำดีอย่างคุณปวีณ ไม่กล้ากลับมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริง อีกทั้งยังยอมก้มหัวรับใช้พวกกบฏล้มล้างการปกครอง ซึ่งคอยหลอกใช้คนรุ่นใหม่ เป็นเครื่องมือทำผิดติดคุกติดตะรางแทนตัวเองอย่างอำมหิต โดยอาศัยการชี้นำทางความคิดด้วยการโกหกบิดเบือน ตลอดจนอามิสสินจ้างต่างๆ ไม่ต่างจากการ #ค้ามนุษย์ ที่สุดแสนเลวทรามต่ำช้านี้เสียเอง พร้อมติดแฮชแทก #ปลอมไม่เนียนไปเรียนมาใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น