“หมอยง” ชี้โควิดไทยช่วงขาขึ้น อาจเห็นผู้ติดเชื้อ 3-5 หมื่น

"หมอยง" ชี้สถานการณ์โควิดไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น อาจเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อ 3-5 หมื่น หรือมากกว่า ย้ำหากผลATKเป็นบวก อาการน้อย ไม่ต้องไปRT-PCRซ้ำ

วันที่ 20 ก.พ. 65 ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า โควิด-19 การระบาดอยู่ในขาขึ้น ตามที่ได้กล่าวแล้ว สายพันธุ์ที่มีแนวโน้มไปได้เร็ว BA.2 เราคงหนีไม่พ้น ขณะนี้การระบาดอยู่ในขาขึ้นในทวีปเอเชีย สิงคโปร์มีประชากรน้อยกว่าเรา 10 เท่า ยังมีผู้ป่วยมากกว่าหมื่นห้า ญี่ปุ่นขึ้นไปเกือบแสน เกาหลี ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบ มากกว่าเราทั้งนั้น จะเห็นว่าการเปลี่ยนสายพันธ์แต่ละครั้งจำนวนผู้ป่วยในบ้านเรา จะเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า จากระลอกแรกเป็นหลักสิบ ระลอก 2 เป็นหลักร้อย และระลอก 3 เป็นหลักพัน ระลอก 4 เจอสายพันธุ์เดลต้าเป็นหลักหมื่น ครั้งนี้เป็นระลอก 5 สายพันธุ์โอไมครอน ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นเป็นหลักแสนหรือไม่ ไม่อยากเห็นตัวเลขขึ้นแบบนั้นเลย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ระบุอีกว่า เราคงต้องยอมรับความจริง โรคนี้ในเอเชียจะต้องขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้วจึงค่อยลงมาอีก จะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ในยุโรปและอเมริกาอยู่ขาลงแล้ว ซึ่งมีโทรศัพท์เข้ามา โดยเฉพาะมีผู้ป่วยใหม่ขอคำปรึกษาจำนวนมาก แสดงให้เห็นจำนวนผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและส่วนใหญ่เป็นการติดในครอบครัว และจะติดทั้งครอบครัว จำนวนผู้ติดเชื้อในบ้านเราอยู่ในขาขึ้น ยอดสูงสุดจะเป็นเท่าไหร่ อาจจะถึง 3-5 หมื่น หรือมากกว่าก็ได้ ขณะนี้ที่เห็นชัดก็คือว่าถ้าเรารวมผู้ป่วยตรวจยืนยัน RT PCR กับ ATK ก็น่าจะเกิน 25,000 แล้ว และดูอัตราการเสียชีวิต ในภาพรวมดังแสดงในรูป จะอยู่ที่น้อยกว่า 2 ใน 1000 ถ้าเอาผู้ที่มีอาการน้อยและตรวจพบ ATK มารวมด้วยอัตราการเสียชีวิตก็จะอยู่ที่น้อยกว่า 1 ใน 1000 เมื่อมีจำนวนผู้ป่วยมากขนาดนี้และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ทุกคนจะต้องช่วยกันก็คือ ลดการติดต่อโรคให้ได้มากที่สุด

 

ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ย้ำว่า ผู้ที่ตรวจ ATK เป็นบวกแล้วไม่มีอาการ ให้แยกตัวกักตัวเองเลย อาจไม่จำเป็นที่ต้องไปตรวจยืนยันเลย ให้ปฏิบัติตัวเหมือนผู้ติดเชื้อแล้วไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ค่าตรวจจะมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น สมมุติถ้าเราติดเชื้อรวมทั้ง ATK เกินกว่า 50,000 ราย และต้องตรวจ RT PCR หมด รวมทั้งมีการตรวจกรองกลุ่มเสี่ยงอีก ซึ่งขณะนี้เราตรวจกันวันละประมาณ 50,000 คน และถ้าต้องตรวจเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 คน ค่าตรวจคนละ 1,000 บาท เราจะต้องใช้เงินค่าตรวจวันละ 100 ล้านบาท ผู้ที่มีอาการก็จะต้องแยกแยะว่ามีอาการมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีอาการน้อยและสามารถแยกตัวที่บ้านได้ก็ควรอยู่บ้าน สภาพอย่างในปัจจุบันนี้ คงเป็นไปไม่ได้ ที่ทุกคนเมื่อตรวจพบเชื้อแล้ว จะต้องอยู่โรงพยาบาล

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครูบาอริยชาติ เกจิภาคเหนือวัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย สร้างพระพุทธเมตตา จากหยกรัสเซียใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 10 ตัน
นายกฯ-สามี พา "น้องธิธาร" ลูกสาว วิ่งเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า
กระทรวงดีอี – ดีป้า เปิดศึกบิน – ซ่อมโดรนเกษตรชิงแชมป์ประเทศไทย ในรายการ “Thailand Agriculture Drone Competition 2024”
รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ฯ นำ จนท.ตรวจสารเสพติดทหารใหม่ 2,911 นาย เพื่อค้นหาผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
รถบรรทุกปูนพลิกคว่ำขวางถนนรถติดยาวหลายกิโล
รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภาคอีสาน คุมเข้มแผนบริหารจัดการน้ำ พร้อมเร่งขับเคลื่อนมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้ง
เลือกตั้งสหรัฐ: ทั้งสองพรรคมั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง
แคปซูลส่งกลับ 'เสินโจว-18' ของจีนแตะพื้นโลกปลอดภัย
ผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความ "หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง" เอาผิดฐานฉ้อโกง หลังหลอกให้สั่งซื้อวัตถุมงคลแพงลิ่ว
แวะปั๊มก่อนเลย พรุ่งนี้น้ำมันขึ้นราคา เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับทุกชนิด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น