ฟังอีกมุม! ย้อนบทสัมภาษณ์ “พล.ต.อ.เอก” ไม่มีใครข่มขู่ตร.คดีโรฮิงญา

ฟังอีกมุม!ย้อนบทสัมภาษณ์ “พล.ต.อ.เอก” – “ศรีวราห์” คดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ไม่มีใครข่มขู่กดดันตำรวจ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” สั่งจัดการเด็ดขาด “จักรทิพย์” แจงสาเหตุย้าย “พล.ต.ต.ปวีณ” ไปศชต.

เป็นประเด็นร้อนแรงที่สังคมกำลังพูดถึงสำหรับกรณีประเด็นค้ามนุษย์ “ชาวโรฮิงญา” ที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล นำมาอภิปรายในสภาฯ และการออกมาเปิดเผยความในใจของ พลตำรวจตรีปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี ที่ไปลี้ภัยอยู่ที่ออสเตรเลีย โดยเจ้าตัวอ้างว่าเพราะถูกกลั่นแกล้ง และถูกข่มขู่

อย่างไรก็ดีทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้ย้อนตรวจสอบบทสัมภาษณ์ของ พลตำรวจเอกเอก อังสนานนท์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดีค้ามนุษย์ “ชาวโรฮิงญา” เคยให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ และเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2560

โดย พลตำรวจเอกเอก เล่าจุดเริ่มต้นของคดีค้ามนุษย์ว่า จุดเริ่มต้นคลี่คลายคดีชาวโรฮิงญา ตำรวจพบว่ามีขบวนการพาคนเหล่านี้ไปประเทศที่ 3 เรียกค่าไถ่จากญาติเป็นเงินหลายแสนบาท ผู้เสียหายบางรายไม่ยินยอมถูกทำร้ายทารุณจนเสียชีวิต ฉากปฏิบัติการสืบสวนเข้มข้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบพื้นที่บนเทือกเขาแก้ว บ้านตะโละ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ภาพตรงหน้าเป็นค่ายกักกัน มีหลุมฝังศพจำนวนมาก นั่นคือความโหดร้ายที่เกิดจากการกระทำระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ หลายชีวิตต้องหมดลมหายใจเพราะถูกทรมานทุบตี อดอาหาร ทำให้ฝ่ายความมั่นคงยอมไม่ได้ที่จะให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นในประเทศไทย เพราะบ้านเราคือเมืองพุทธ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พลตำรวจเอกเอก เล่าต่อว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องเข้ามาเน้นย้ำกำชับการทำงาน มอบหมายให้ลงไปดำเนินการคลี่คลายกวาดล้างจับกุมขบวนการค้าเนื้อสดเหล่านี้ให้ได้ จนในที่สุดสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ตามพยานหลักฐานที่พบ จนศาลได้ตัดสินพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่ามีการทำผิดจริง

ส่วนที่หลายฝ่ายเกรงว่าอาจเกิดการแทรกแซงของผู้มีอำนาจเหนือกว่า อดีตหัวหน้าชุดสืบสวน ตอบโต้กลับมาทันทีว่า การทำคดีครั้งนั้นไม่มีใครมากดดัน เพราะ พลเอกประยุทธ์ และ พลเอกประวิตร สั่งให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด เนื่องจากเป็นเรื่องของประเทศชาติ ท่านให้ความสำคัญอย่างมาก มุ่งหวังให้ประเทศไทยไม่ติดกับดักปัญหาการค้ามนุษย์ และต้องการให้นานาประเทศที่เคยกล่าวหาไทยได้เข้าใจ จากคำพิพากษาศาลคงเป็นประจักษ์พยานพิสูจน์ความจริงจังในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลนี้

ขณะเดียวกันหากย้อนไปเมื่อ วันที่ 16 ธันวาคม 2558 พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อลงไปควบคุมการสอบสวนและดูสำนวน รวมถึงสอบถามข้อมูลว่ามีพนักงานสอบสวนคนใดในชุดทำคดีนี้ถูกข่มขู่ ตามที่ พลตำรวจตรีปวีณ กล่าวอ้างหรือไม่ หากมีจะให้แจ้งความดำเนินคดีทันที ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปดูบทสัมภาษณ์ที่ พลตำรวจตรีปวีณ ให้สัมภาษณ์ไว้กับสำนักข่าวต่างประเทศ ว่าจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทตามกฎหมายหรือไม่

 

พลตำรวจเอกจักรทิพย์ กล่าวอีกว่า พลตำรวจตรีปวีณ ต้องขอบคุณผม ที่หาบ้านให้อยู่ ในเมื่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไม่ต้องการให้อยู่หน่วยเดิม เนื่องจากมองว่าไม่มีวินัย ผมจึงสอบถามไปยังศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนใต้ หรือ ศชต. ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงพื้นที่เดิม ยังยืนยันว่าผมเองพร้อมพูดคุยกับ พลตำรวจตรีปวีณ หากเดินทางเข้ามาพบ แต่ขอให้พูดความจริงและให้พูดทั้งหมดทุกเรื่อง ซึ่งผมเองพร้อมจะให้อภัย แม้ว่าจะถูกสังคมพิพากษาไปแล้วก็ตาม

จากนั้นวันที่ 24 ธันวาคม 2558 พลตำรวจเอกศรีวราห์ ได้เปิดเผยผลการลงพื้นที่จังหวัดสงขลา และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนใต้จังหวัดยะลา ตั้งแต่วันที่ 23-25 ธันวาคม 2558 เพื่อตรวจสอบกรณีที่ พลตำรวจตรีปวีณ ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่าถูกข่มขู่ คุกคาม จากการดำเนินคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา

โดย พลตำรวจเอกศรีวราห์ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบไม่พบว่ามีพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาถูกข่มขู่ และในช่วงระยะเวลาที่ พลตำรวจตรีปวีณ เข้ามารับผิดชอบคดีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2558 จนกระทั่งมีการสรุปสำนวนคดี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ไม่คิดว่าจะมีช่องทางไหนที่จะเปิดโอกาสให้ถูกข่มขู่ได้ เพราะมีระยะเวลาการทำงานสั้น และ พลตำรวจตรีปวีณ ก็เพิ่งมีข่าวว่าถูกข่มขู่เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งหากถูกข่มขู่ในช่วงเวลานี้จริงจะไม่มีผลต่อคดีค้ามนุษย์ เนื่องจากสำนวนทั้งหมดส่งให้อัยการหมดแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ธนกร” แนะรัฐบาลฉวยโอกาสอีเว้นท์ใหญ่ช่วงเปิด “สมรสเท่าเทียม” ดึงนทท.ทั่วโลก
"มาริษ" เผย ตปท.ชื่นชมไทย "สมรสเท่าเทียม" มีผลบังคับใช้แล้ว
"เศรษฐา" ยินดี 23 ม.ค. "สมรสเท่าเทียม" เกิดขึ้นจริงด้วยพลังของทุกคน 
“ไทด์” สุดสงสาร “แตงโม” ไม่ได้โดนแค่กรีดขา แต่โดนเจาะน่อง-มันทะลัก
"พิชัย" โชว์วิชั่นเวที WEF ดาวอส ประกาศศักยภาพไทย พร้อมเปลี่ยนสู่ยุคศก.ดิจิทัล โลก AI
งานเข้า! "ตำรวจไซเบอร์" ชี้ล่าเหรียญ "Jagat" ฟันผิดกฎหมาย พบ 3 บัญชีโอนเงินผู้เล่นจริง จ่อเรียกสอบ
ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานยังคลุมทั่ว กทม. พื้นที่สีแดง 14 เขต
บึ้มสนั่นกลางดึก ชาร์จรถ 3 ล้อไฟฟ้า เกิดไฟฟ้าลัดวงจรลามไหม้ร้านของชำ หวิดวอดทั้งหลัง
กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย เตือนภาคใต้มีฝนตกบางแห่ง
"กรมโยธาฯ" จับมือ "คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล" ลงนาม MOU ช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยการบริจาคโลหิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น