ย้อนฟัง อดีต “จักรทิพย์” อดีต ผบ.ตร.จวก “ปวีณ” ปมคดีโรฮิงญา

พาย้อนฟังพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น พูดถึงพลตำรวจตรี ปวิณ พงษ์ศิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในขณะนั้น ที่ได้ทำเรื่องขอลี้ภัยหลังถูกกดดันจากการทำคดีโรฮิงญาและค้ามนุษย์ ยืนยันพลตำรวจตรีปวิน ไม่ใช่ลูกผู้ชาย มีอะไรก็ให้มาพูดกันเป็นการภายใน ไม่ใช่ไปฟ้องสื่อ

เป็นคำพูดบางช่วงบางตอนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดา อดีตผบ.ตร. ออกมากล่าวถึงกรณี พล.ต.ต. ปวีณ พงษ์ศิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 อดีตหัวหน้าคณะทำงานคดีโรฮิงยา ขอลี้ภัยหลังได้รับผลกระทบจากการถูกคุกคามจากทหารตำรวจผู้มีอิทธิพลจากการทำคดี ที่ประเทศออสเตรเลียว่า ส่วนตัวไม่ทราบเจตนาของ พล.ต.ต.ปวีณ ว่าทำไปเพราะเหตุใด การพูดลักษณะดังกล่าวต้องการทำร้ายประเทศหรือไม่ และไม่ทราบว่าจะมีเรื่องของการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยยืนยันมาตลอดว่าตัวเองได้แก้ไขปัญหาให้ พล.ต.ต.ปวีณ มาโดยตลอด เคยให้โอกาสท่านเป็นคนเลือก หรือถ้ามีปัญหาก็ให้มาพูดคุยกันกับตนเองหรือกับรองผบตร. ท่านอื่นจะได้ ว่าท่านจะไปทำงานที่หน่วยงานไหน ก่อนหน้าที่จะมีการโยกย้ายตำแหน่ง ตนเองได้มีการสอบถามไปยังผู้บัญชาการภาคแต่ละท่านแล้วโดยเฉพาะพลตำรวจตรีปวิน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไม่เอา ถ้าตนยัดเยียด หน่วยก็ไม่สามารถอยู่ได้ ผู้บัญชาการภาค 8 สั่งย้าย 2 คนคือท่านปวีณและท่านสมชาย ยืนยันว่ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไม่รับท่านปวีน ตนเองก็ต้องหาหน่วยงานใหม่ให้ท่านปวีนไปอยู่

ตนไม่ได้กลั่นแกล้งท่านปวีณ แต่พิจารณาจาก ประวัติเคยดูความสมัครใจ อัศวินเคยเชี่ยวชาญเรื่อง โรฮิงญา บางครั้งท่านพูด แต่พูดไม่หมด ทุกวันนี้สังคมสับสน ไปเล่นกับสื่อ เดี๋ยวสื่อไทยเดี๋ยวซื้อนอก ท่านไปบอกว่าการทำงานมีการแทรกแซงจากรัฐบาล จาดนายตำรวจระดับสูง ก็ขอให้ระบุชื่อมาเลย จะไปจะได้ฟ้องถูกตัวจะไปบอกทหารเลวตำรวจเลว ผมไม่ทราบว่าพูดอย่างนี้เพื่ออะไร พนักงานสอบสวนมีเป็นร้อยคนผมเห็นมีปัญหาอยู่คนเดียว แล้วผมจะปกครองหน่วยยังไง เขาทำงานเขาคาดหวังอะไรหรือเปล่าผมไม่ทราบ ทำงานเรื่องนี้เสร็จจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งพร้อมไม่ได้แล้วผิดหวัง คือต้องพูดให้หมดอย่าพูดครึ่งเดียว

ที่ผมทำงานที่ระเบิดราชประสงค์คดีเล็กคดีใหญ่ บางคนก็ไม่ได้ขึ้นบางคนโดนย้าย ซึ่งมันคือการบริหารงานบุคคลในองค์กร ต้องเข้าใจด้วยตำรวจทหารต้องมีวินัย

คดีโรฮิงญามันจะมีอิทธิพลอะไรนักหนา บอกว่าภาค 9 มีการตั้งแคมป์โรฮิงญามาหลายปีไม่รู้ว่าพาดพิงถึงตนเองหรือเปล่าเพราะตนเองเคยเป็นผู้บัญชาการภาค 9 ส่วนท่านเป็นรองผู้บัญชาการภาค 8 ต้นทาง ทำไมไม่ไปดำเนินการพูดอย่างนี้ไม่ถูก อย่าเอาองค์กรมาขาย อย่าทำร้ายประเทศ นี่ผมก็ส่งคนอื่นลงไปก็สมัครใจลงไปนะ ผมถามว่าพี่ไม่กลัวตายหรอแกตอบว่าผมไม่กลัวหรอก

ข่าวที่น่าสนใจ

ท่านไปอ้างว่าทำงานเยอะศัตรูเยอะ ตำรวจหรือตนเองก็จับคนร้ายมาเยอะแยะก็ยังเดินอยู่ได้ โรฮิงญาตนเองก็เคยจับแล้วจับตัวใหญ่ด้วย ผู้ต้องหาตัวใหญ่ๆมามอบตัวกับผมหาว่าผมไปสนิทชิดเชื้อ ผมโตมาจากสายงานปฏิบัติ ผมไม่ใช่คนหน่อมแน้ม ฝากไปบอกว่าอย่ามามอบตัวก็มามอบไม่อยากมอบก็ไม่ต้องมอบ กลับกลายเป็นว่าผมมีผลประโยชน์ในคดี

แล้วคนที่ดูคดีนี้ต่อคือท่านศรีวรา ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าใครเก่งกว่ากันระหว่างท่านศรีวราและท่านปวีณ แต่ผมเชื่อว่าท่านศรีวราห์เก่งกว่าเยอะ ผมก็เอาคนที่ดูสำนวนเก่งมาดูแลต่อ

ทหารก็เสียหาย ตำรวจเองก็เสียหาย กลายเป็นว่าตำรวจเลวทหารเลว รับราชการมาทั้งชีวิตเพิ่งเห็นตำรวจลี้ภัย ผมไม่รู้เห็นแต่นักการเมืองลี้ภัย ก็เจอครั้งนี้ตกใจเหมือนกันตำรวจลี้ภัย ผมยังไม่เคยเห็นสำนวนเขาทำกันไม่กี่คนอยู่ในกลุ่มผมยังไม่เคยไปแทรกแซงเลย ทั้งๆที่ผมเกี่ยวข้องโดยตรงด้วยซ้ำผมห่างออกมาเพราะไม่อยากยุ่ง ขณะห่างออกมายังโดนข้อหาเลยผมถือว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย ใครจะแนะนำก็แนะนำ ผมไม่แนะนำอยู่แล้ว

คดีที่ทำให้อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ “ของขึ้น” เป็นคดี เมื่อ ปี 2558 ทางการไทยพบค่ายกักกันโรฮิงญาที่เขาแก้ว จ.สงขลา ครั้งแรก ครั้งนั้นภาพของการเชื่อมโยงเส้นทางผ่านของขบวนการค้ามนุษย์ ในประเทศไทยชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2558 มีการค้นพบแคมป์ที่พัก ซึ่งอยู่กลางป่าบนภูเขา พื้นที่ชายแดนรอยต่อไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดพบว่าเคยเป็นสถานที่ควบคุมชาวโรฮิงญา ซึ่งทางการ คาดว่าเคยมีชาวโรฮิงญา มาพักเพื่อผ่านไปต่อประเทศที่สาม มากกว่า 10,000 คน นอกเหนือจากการค้นพบ “ที่พัก” แล้วยังมีการค้นพบ “หลุมศพ”ชาวโรฮิงญา 36 ศพ ถูกฝังไว้คาดว่าเสียชีวิตเพราะขาดอาหาร โดยยังพบร่องรอยถูกทำร้ายตามร่างกาย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่ง พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในขณะนั้น ลงมาสืบสวน และสืบคดีจนพบว่านี่คือขบวนการขนาดใหญ่ มีทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร และนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.ปวีณ ทำเอกสารมหาศาลมากกว่า 1 แสนหน้า รัดกุมทุกมิติ จนคนร้ายไม่สามารถดิ้นได้ ก่อนจะออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 155 คน (เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน เหลือ 153 คน) โดยในจำนวนนี้ หลายคนเข้ามามอบตัว แต่บางคนก็ทำการหลบหนี

หนึ่งในบุคคลที่เป็นตัวละครสำคัญของเรื่องนี้ คือ พล.ม. มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าทีมค้ามนุษย์ โดยศาลตัดสินให้เขา มีความผิดฐานค้ามนุษย์ จำคุก 82 ปี และ มีความผิดฐานฟอกเงิน มีความผิด 20 ปี การโดนลงโทษของผู้ใหญ่ในกองทัพ ทำให้ฝั่งทหารมีความเสื่อมเสียอย่างมาก

พล.ต.ต.ปวีณ อธิบายว่า ขบวนการค้ามนุษย์ใหญ่ขนาดนี้ มีการขนคนเข้าน่านน้ำไทยจำนวนมากระดับพันกว่าคน แต่จับนายทหารได้แค่ไม่กี่คน ดังนั้นมีโอกาสเป็นไปได้ ที่จะมีคนอยู่เบื้องหลัง พล.ท.มนัสอีก เพราะนายทหารคนเดียว จะคุมทั้งทะเลอันดามัน ไม่น่าจะเป็นไปได้

หลังจากติดคุกได้ระยะหนึ่ง พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ต้องหาคนสำคัญกลับเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ สังคมจึงเกิดคำถามว่า มีการฆ่าตัดตอนใดๆ หรือไม่ แต่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม อธิบายว่า พล.ท.มนัส เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว และโรงพยาบาลก็มีกล้องวงจรปิด ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง หรือเสียชีวิตอย่างปริศนาตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ หลังจากทำคดีค้ามนุษย์ ได้ 6 เดือน พล.ต.ต.ปวีณ กลับถูกโยกย้ายให้ไปปฏิบัติราชการในจังหวัดชายแดนใต้ เจ้าตัวมองว่านี่คือเหตุการณ์ผิดปกติ และอาจมีการเพ่งเล็งเพื่อลอบสังหารเขาก็เป็นได้ เนื่องจากไปขัดกับผู้มีอิทธิพลในเรื่องผลประโยชน์จากการค้ามนุษย์โรฮิงญา สุดท้าย พล.ต.ต.ปวีณ จึงลาออกจากราชการ แล้วบินหนีไปที่สิงคโปร์ ก่อนจะขอลี้ภัยไปอยู่ออสเตรเลียในที่สุด

ผู้สื่อข่าวท็อปนิวส์ โทรศัพท์ไปสอบถาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งบอกเพียงสั้น ๆ ว่า ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับคดีนี้แล้วเพราะเกษียณอายุราชการแล้ว

ขณะเดียวกับทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้โทรศัพท์ สอบถาม พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ที่รับผิดชอบด้านการค้ามนุษย์ ได้รับทราบว่า พล.ต.อ.เอก เดินทางไปประเทศดูไบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น