สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อธิบายคดีร้อน สุสานโรฮิงญาปาดังเบซาร์ ยืนยันปราบปรามการค้ามนุษย์ ดำเนินการตามหลักกฎหมาย อย่างต่อเนื่อง โชว์ผลงานสะสางปี 64 –65 ล้างไป 193 คดี
พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณี ส.ส.ฝ่ายค้าน อภิปรายประเด็นการปราบปรามจับกุมคดีค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีที่เกี่ยวข้องกับชาว “โรฮีนจา” เมื่อปี พ.ศ. 2558 ในทำนองว่าไม่ให้ความสำคัญ ไร้ประสิทธิภาพ และดำเนินการในลักษณะไม่มีมาตรฐานในการปฏิบัติที่เป็นธรรมนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอชี้แจงดังนี้
- 1.คดีค้ามนุษย์ “โรฮีนจา” พื้นที่ สภ.ปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 1 พ.ค.58 คดีนี้เป็นคดีที่เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ตาม ป.วิอาญา มาตรา 20 ซึ่งอัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ต่อมาอัยการสูงสุดได้แต่งตั้งพนักงานสอบสวนฝ่ายตำรวจและฝ่ายอัยการ เป็นคณะพนักงานสอบสวน ร่วมทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาค้ามนุษย์, อาชญากรรมข้ามชาติ และข้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้ขอให้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ จำนวน 155 ราย จับกุมตัวได้แล้ว จำนวน 120 ราย เสียชีวิต จำนวน 2 ราย และหลบหนี อยู่ระหว่างติดตามจับกุมเพิ่มเติม จำนวน 33 คน ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหาที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีแล้ว ศาลอาญาและศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไปแล้วหลายราย