“ครูแก้ว” ยันไม่คิดถอนตัวจากพรรคร่วม แจงแค่คุยหยอกล้อส.ส.ในพรรคเท่านั้น

“ช่วงหนึ่งของการเสวนาผมได้เล่าความรู้สึกของส.ส.ของพรรค ซึ่งเป็นการพูดคุยทีเล่นทีจริงของส.ส.ว่า หากนโยบายเอกของพรรคไม่ผ่าน เราควรจะอยู่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อหรือไม่ ตอนที่พูดนั้นเราไม่ได้พูดเรื่องพ.ร.บ.กัญชง กัญชา แต่พูดว่าประมวลกฎหมายยาเสพติดจะผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) หรือไม่ เพราะเคยเห็นฝ่ายกฎหมายของป.ป.ส.ออกมาให้สัมภาษณ์สวนทางกันกับฝ่ายกฎหมายของพรรคภูมิใจไทย หากไม่ผ่านก็ไม่อยู่ร่วมรัฐบาลแล้ว แต่สุดท้ายป.ป.ส.ก็ให้ผ่านและรัฐมนตรีสาธารณสุขก็ได้ประกาศกฎกระทรวงไป เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งผมแค่นำมาเล่าให้ชาวบ้านฟัง เพราะผมต้องหาคะแนนนิยมว่าพรรคภูมิใจไทยพยายามทำเรื่องนี้ ภูมิใจไทยพูดแล้วทำ ซึ่งก็ซีเรียสกันเพราะเป็นนโยบายของพรรค ก็อาจจะเป็นการเขียนข่าวที่อาจโยงให้เป็นประเด็น เป็นข่าวให้ตื่นเต้น เร้าใจ ยิ่งรัฐบาลมีเรื่องยุ่งๆ อยู่ จึงอยากให้ยุ่งมากขึ้น” นายศุภชัย กล่าว

เมื่อถามว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าไม่ได้พูดจาข่มขู่ที่จะถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายศุภชัย กล่าวว่า “ไม่ใช่ การพูดจาวันนั้นเป็นการพูดของผมคนเดียว ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย ผมพูดคนเดียว พูดกับชาวบ้านของผม ว่าเราดำเนินการและเคลื่อนไหวมาอย่างไรบ้าง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะประกาศถอนตัว ใครจะไปคิดอย่างนั้น และผมก็ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคด้วย เป็นแค่ส.ส.ของพรรคธรรมดา”

เมื่อถามต่อว่า มีการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคแล้วและถือว่าจบแล้วใช่ไหม นายศุภชัย กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดกับหัวหน้าพรรคโดยตรง แต่คุยกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แต่จากที่ฟังหัวหน้าพรรคให้สัมภาษณ์ก็ดูท่านเข้าใจตน รวมถึงได้มีการส่งไลน์ที่ตนให้สัมภาษณ์ไปให้นายกรัฐมนตรีเพื่อเรียนว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็โอเค ได้ฟังแล้วก็สบายใจ เรื่องแค่นี้นายกฯ ไม่ลำบากใจหรอก ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าตนจะไม่ไปพูดอะไรให้เกิดความเสียหายต่อฝ่ายไหนทั้งสิ้น ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในฐานะรองประธานสภาฯ แต่ในขณะที่ตนลงพื้นที่ตนก็ต้องไปคุยกับชาวบ้านหรือเป็นการเสวนาให้คนที่สนใจเรื่องกัญชามาฟัง อาจจะมีการพูดเกริ่นว่าเป็นมา และขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร