ศาลสั่งจำคุก “เสธไบ๋” ลวง บ.ติดตั้งหลอด LED พร้อมชดใช้เงิน 40 ล้าน

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก “เสธไบ๋” กับพวกหลอกติดตั้งหลอดไฟ LED 2 ปี พร้อมชดใช้เงินผู้เสียหายกว่า 40 ล้านบาท

ศาลอาญารัชดานัดอ่านคำพิพากษาในคดี “ฉ้อโกงประชาชน” ซึ่งพนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.สมโภชน์ เงินเจริญ หรือ เสธ.ไบ๋ อายุ 66 ปี อดีตที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 4 และอดีตผู้ช่วยหัวหน้าเสนาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นางชุติกาญจน์ บุญมี หรือกาญจนา และ น.ส.ธนัญกัลย์ นันทดำรงวัฒน์ หรือฟ้า เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

สืบเนื่องจากเมื่อระหว่างวันที่ 28 มี.ค. – 20 ก.ค. 61 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้ง 3 กับพวกที่ยังหลบหนี ได้ร่วมกันหลอกลวง หจก.ไพศาลการค้า ผู้เสียหายที่ 1 โดยอ้างว่ามี โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ (หลอดไฟ LED) ซึ่งเป็นโครงการของกรมพัฒนาพลังงานทดแทน ก.พลังงาน โดย พล.อ.สมโภชน์ จำเลยที่ 1 แนะนำตัวเองว่า เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. และแจ้งว่า ผู้เสียหายที่ 1 สามารถรับงานตามโครงการได้ ซึ่งเป็นโรงเรียนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น งบประมาณโรงเรียนละไม่เกิน 5 แสนบาทโดยผู้เสียหายต้องจ่ายค่าจองงานและค่าดำเนินการ 30 เปอร์เซ็นต์ โดยจ่ายเงินสดจำนวน 5 แสนบาทก่อน และค่าติดตั้งหลอดไฟ LED รวม 496 โรงเรียน ๆ ละ 939,000 บาท โดยผู้เสียหายจ่ายค่าดำเนินการต่างๆ ให้กับจำเลย รวม 31,261,300 บาท แต่โครงการดังกล่าวกลับไม่มีอยู่จริง อีกทั้งจำเลยที่ 1 ก็ไม่ได้เป็นสมาชิก สนช.แต่อย่างใด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อีกทั้งเมื่อระหว่างวันที่ 19 ธ.ค. 60 -21 ส.ค. 61 จำเลยทั้ง 3 ยังได้หลอกลวงบริษัท โซล่าเซลล์ จำกัด ผู้เสียหายที่ 2 ว่า มีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในหน่วยงานของรัฐ (ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์) ให้กับ 100 โรงเรียนใน จ.เลย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อจ่ายเงินจำนวน 12,700,000 บาท ให้แก่พวกจำเลย ซึ่งเป็นโครงการเท็จทั้งสิ้น รวมมูลค่าเสียหายความเสียหายทั้ง 2 ราย เป็นจำนวนเงิน 43,961,300 บาท

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบหักล้างกันแล้ว พิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 1 และ 3 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกจำเลยที่1 และ 3 กระทงละ 1 ปี 6 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 รวม 1 กระทง ๆ ละ 1 ปี 6 เดือน แต่จำเลยทั้ง 3 ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษเหลือ1 ใน 3 คงโทษจำคุก จำเลยที่ 1 และ 3 คนละ 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 จำคุก 1 ปี ให้นับโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาก่อนหน้านี้ อีกทั้งให้จำเลยทั้งสามคืน หรือ ชดใช้ งิน จำนวน 28,404,477.40 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 1 และให้จำเลยที่ 1 และ 3 คืน หรือ ชดใช้เงิน 12,700,000 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 2

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น