วันที่ 23 ก.พ. 2565 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท อดิชาติ มีสา รองผกก.(สอบสวน)สภ.เมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกอ้อยมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมเข้าร่วมตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน สายกลันทา-บ้านเสม็ด ระหว่างบ้านโคกกลาง ต.กลันทา พบรถยนต์บรรทุกอ้อย 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 80-2758 บุรีรัมย์ บรรทุกอ้อยมาเต็มคันรถจอดอยู่ข้างทาง ท้ายรถบรรทุกพบหมวกกันน็อคหล่นอยู่ มีเศษมันสมอง กระจายเกลื่อนถนน กลางถนนพบศพนายอานนท์ รักเพื่อน อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 25 ม.2 ต.ถลุงเหล็ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้า กระโหลกศีรษะด้านซ้ายหายไปทั้งแถบ ห่างกันประมาณ 10 เมตร พบรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็ม-สแลซ สีดำ ทะเบียน1กธ 4191 บุรีรัมย์ ตกอยู่ในป่าข้างทาง สภาพด้านหน้าพังเสียหาย
จากการสอบถามนายเอื้อน เทวารัมย์ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 80 ม.6 ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ คนขับรถรถบรรทุกอ้อย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับให้การว่า ได้บรรทุกอ้อยจากไร่ จะไปส่งโรงงานน้ำตาล ใน อ.คูเมือง เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุรู้สึกเกิดปวดปัสสาวะ จึงจอดรถแอบข้างทาง จังหวะที่กำลังยืนปัสสาวะอยู่นั้นได้ยินเสียงดังโครม จึงรีบวิ่งมาดู พบว่ามีคนนอนคว่ำหน้าอยู่กลางถนน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ ต่อมาได้มี น.ส.นิตยา เรืองเจริญ อายุ 22 ปี ภรรยาผู้ตาย มาถึงหลังได้รับแจ้ง ถึงกับเข่าทรุด พร้อมกับร่ำไห้ด้วยความเสียใจ และทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.นิตยา เล่าว่าสามีทำงานที่คลังเก็บสินค้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ ปกติสามีจะกลับค่ำเกือบทุกวัน สามีเป็นคนขยัน ทุกวันลูกชายวัย 3 ขวบจะไม่ยอมเข้านอน เพราะรอพ่อกลับบ้านก่อน แต่วันนี้กลับช้ากว่าปกติ รู้สึกสังหรณ์ใจ เนื่องจากตอนเช้าก่อนสามีจะออกไปทำงาน ได้พูดกับลูกชายวัยว่า “เดี๋ยวพ่อก็ไปแล้วนะลูก พ่อจะไม่กลับมาแล้ว” ตนเองจึงทักท้วงสามีไปว่าทำไมพูดแบบนั้น และไม่คิดว่าสามีจะเสียชีวิตแบบนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเร่งสอบสวนหาสาเหตุ ของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย.
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์