วันที่ 23 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปที่ “บ้านทับทิมสยาม” เพื่อเยี่ยมเยียนครอบครัวของนางกมลทิพย์ กุลคง หรือ “พี่มล” อายุ 48 ปี สวนสมโอทับทิมสยามปาแดง-ลุงแอ๊ด” เลขที่ 65 หมู่ 15 บ้านบางดุก ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อประสานงานเกี่ยวกับเรื่องที่ครอบครัวของนางกมลทิพย์ จะนำส้มโอทับทิมสยามไปถวายวัดเขาพระทอง และแจกฟรีจำนวน 300 ลูกให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในวัดเขาพระทองในเวลา 10.30 น. ของวันเสร์ที่ 26 ก.พ. 2565 โดยมีนางทองดี สุนัขเพศเมีย พันธุ์ไทยผสม ที่นางกมลทิพย์ เลี้ยงไว้ ได้วิ่งไปต้อนรับพระมหาอารยนันต์ และคณะทันที และในขณะที่นางกมลทิพย์ กุลคง หรือ “พี่มล” กำลังปอกส้มโอทับทิมสยามบรรจุกล่องเพื่อถวายพระมหาอารยนันต์ ปรากฏว่านางทองดี ได้เดินเข้าไปยืนเฝ้าและยกขาหน้าขึ้นไปสะกิดขานางกมลทิพย์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขอกินส้มโอทับทิมสยาม แม้นางกมลทิพย์ จะบอกว่าจะปอกถวายพระก่อน แต่นางทองดี ก็ไม่ยอมยังสกิดขานางกมลทิพย์ อย่างต่อเนื่อง จนนางกมลทิพย์ ต้องแกะส้มโอทับทิมสยามยื่นให้นางทองดี 1 กลีบ นางทองดี จึงคาบส้มโอทับทิมสยามไปวางและเคี้ยวกินและมีท่าทีหวงแหนไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ในขณะที่กำลังกินเพราะกลัวว่าจะมีคนแย่งกิน จนเป็นที่แปลกใจของพระมหาอารยนันต์ และคณะที่เห็นสุนัขกินส้มโอทับทิมสยามอย่างเอร็ดอร่อย ไม่เคยพบเคยเห็นน้องหมากินส้มโอในลักษณะนี้มาก่อน
นางกมลทิพย์ กุลคง หรือ “พี่มล” เปิดเผยว่าเมื่อประมาณ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาไม่รู้ใครนำลูกสุนัขเพศเมียมาทิ้งที่ริมถนนหน้าบ้าน ด้วยความสงสารตนจึงนำมาเลี้ยงไว้และตั้งชื่อว่า “นางดวงดี”เหมือนพันธุ์ส้มโอขนิดหนึ่ง โดยเลี้ยงดูมันอย่างดีจนมันเจริญเติบโตอ้วนท้วนสมบูรณ์ตามที่เห็น และสังเกตเห็นว่ามันแสนรู้ จะไม่กัด ไม่เห่าใครที่เข้ามาในบริเวณบ้าน แต่หากใครจับฉวยหรือหยิบเอาสิ่งของใด ๆ ไปโดยพละการนางทองดี จะพุ่งเข้าใสแยกเขี้ยวคำรามข่มขู่เอาเรื่องทันที จนต้องวางสิ่งของไว้เหมือนเดิม ส่วนที่มันชอบกินส้มโอทับทิมสยามเป็นชีวิตจิตใจเพราะที่บ้านมีอาชีพทำสวนส้มโอทับทิมสยามชื่อสวนส้มโอทับทิมสยาม “ป้าแดง-ลุงแอ๊ด” เมื่อตอนนางทองดีมันยังเล็ก ๆ คนในบ้านปอกและแกะส้มโอทับทิมสยามกิน นางทองดี ก็จะมาสะกิดขอกินด้วย จึงแกะให้มันกินอย่างเอร็ดอร่อยมาตลอด เมื่อกินอิ่มก็จะไปนอนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ตั้งแต่นั้นมาเมื่อมีใครก็ตามปอกแกะส้มโอทับทิมสยามนางทองดีก็จะเข้ามาขอ โดยยกขาหน้าสะกิดขอกินทุกครั้ง จึงต้องให้มันกินส้มโอทับทิมสยามมาตลอดจนติดเป็นนิสัย ซึ่งถือว่าโชคดีที่ที่บ้านทำสวนส้มโอทับทิมสยามจึงมีส้มโอทับทิมสยามให้นางทองดี กินได้สบายใจไม่เดือดร้อน แต่หากต้องไปซื้อให้นางทองดีกินมาก ๆ ก็หนักใจเหมือนกัน เพราะส้มโอทับทิมสยามมีราคาแพงลูกละ 120-200 บาทตามขนาด
“จนมีการพูดว่า “คนปลูกไม่ได้กิน คนกินไม่ได้ปลูก” เพราะคนปลูกอาจจะคิดว่าราคาแพงส่งขายดีกว่าได้เงินเยอะ แต่สำหรับ “สวนป้าแดง-ลุงแอ๊ด” มีทั้งขายในและต่างประเทศ และแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้านหรือคนทั่วไป โดยเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2565 ก็นำไปแก้บนไอ้ไข่และแจกจ่ายให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องวเที่ยวที่วัดเจดีย์(ไอ้ไข่) จำนวน 2,222 ลูก วันเสาร์ที่ 26 ก.พ. นี้ก็จะนำไปแจกที่วัดเขาพระทองอีก 300 ลูก เรารู้สึกดีใจที่ทุกคนได้กินและรู้จักส้มโอทับทิมสยามของดีคู่เมืองนครศรีธรรมราช ที่เปรียบได้กับ “อัญมณีไต้พื้นพิภพแห่งดินแดนลุ่มน้ำปากพนัง”. นางกมลทิพย์ กล่าว.
กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์/จ.นครศรีธรรมราช