สภาฯผ่านฉลุย พ.ร.บ.ป้องผิดซ้ำคดีเกี่ยวกับเพศ-ความรุนแรงฯ เพิ่มทางเลือกใช้มาตรการแพทย์ฉีดให้ฝ่อ

"พัชรินทร์" ขอบคุณเพื่อนสมาชิก ร่วมทำคลอดกฎหมายป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ดันใช้มาตรการทางการแพทย์ ในผู้กระทำผิดซ้ำ เช่น ฉีดให้ฝ่อ

เมื่อวันที่ 23 ก.พ.65 ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “พรรคพลังประชารัฐ” โดยระบุข้อความว่า สภาฯผ่านฉลุย พ.ร.บ.ป้องผิดซ้ำคดีเกี่ยวกับเพศ-ความรุนแรงฯ “พัชรินทร์” ขอบคุณเพื่อนสมาชิก ร่วมทำคลอดกฎหมายป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ดันใช้มาตรการทางการแพทย์ ในผู้กระทำผิดซ้ำ เช่น ฉีดให้ฝ่อ

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขอบคุณเพื่อนสมาชิก ที่ได้ร่วมลงมติเห็นด้วย 320 เสียง ผ่าน “ร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. ….” ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 2 และ 3 ที่กระทรวงยุติธรรม โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รวมถึงตน และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้เสนอ ซึ่งจะเป็นกฎหมายในการคุ้มครองความปลอดภัย ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันการกระทำผิดซ้ำที่ร้ายแรง โดยเฉพาะเรื่องเพศ ตามนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐ ที่มุ่งส่งเสริมความปลอดภัยในทุกมิติ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

และที่สำคัญตนต้องขอขอบคุณ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญกับกฎหมายดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งท่านได้เข้าประชุม และทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมในทุกนัด เพื่อเร่งขับเคลื่อน ให้สามารถผลักดันให้เกิดกฎหมายฉบับนี้โดยเร็ว

ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าว จะเป็นการเปิดหน้าการดำเนินความผิดในผู้กระทำผิดซ้ำในคดีที่มีความรุนแรง ทั้งในเด็กเยาวชน ผู้หญิง ผู้สูงอายุ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ ฯลฯ สอดคล้องกับการป้องกันภัยคุกคามทางเพศ และความรุนแรง ที่มาพร้อมกับพลวัตรสังคม ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการใช้หลักทางจิตวิทยา และมาตรการทางการแพทย์ เพื่อเข้ามามีส่วนในการป้องกันในผู้ต้องหาที่ได้กระทำผิดซ้ำ เช่น การใช้ยา, การฉีดฮอร์โมนลดความต้องการทางเพศ หรือฉีดให้ฝ่อ

 

โดยมาตรการทางการแพทย์ที่ศาลมีคำสั่งให้ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างน้อย 2 คน มีความเห็นพ้องต้องกันโดยจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้กระทำความผิดด้วย ควบคู่กับมาตรการทางกฎหมาย เช่น ให้พักอาศัยในสถานที่ที่ศาลกำหนด, ห้ามออกนอกประเทศ, ต้องแจ้งเมื่อมีการเปลี่ยนสถานที่ทำงาน, ห้ามทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด,ใส่อุปกรณ์ติดตามตัว เป็นต้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดใจ 'สุพิศ พิทักษ์ธรรม' คว้าชัยนายก อบจ.สงขลา ด้วยคะแนนท่วมท้น พร้อมพลิกฟื้นบ้านเกิดด้วย 5 นโยบาย ให้ยั่งยืน
เพจดังแฉหลักฐาน IO ส้มเวียดนามบุกเมนต์ไทยฉ่ำ ฉุนแพ้นายกอบจ.ภูเก็ต
ตำรวจปานามาปะทะเดือดกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรูบิโอ้
"นายกฯ" คุยรายการครั้งแรก "โอกาสไทย" ยันแจกหมื่นเฟส 3 ย้ำผลงานบัตรทองทำครบ 77 จว. เร่งบ้านเพื่อคนไทย
ชายแดนตึงเครียด! จนท.ตรึงเข้ม 371 Km คอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานบุกพญาตองซู
รมว.ต่างประเทศสหรัฐไปปานามาหลังทรัมป์ขู่ยึดคลอง
รวบอดีตอัยการ เบี้ยวนัดฟังคำพิพากษา คดีรับสินบน 1 แสนบาท ช่วยผู้ต้องหา คดียาเสพติด
"ซูเปอร์โพล" เผยผลสำรวจคนไทยหนุนตัดไฟประเทศเพื่อนบ้าน แก้อาชญากรรมข้ามชาติ เชื่อลดปัญหาได้
สุดเศร้า "2 นักสืบ บช.น." ถูกรถปูนชนอัดท้ายรถพ่วงดับ ขณะไล่ล่าแก๊งค้ายาเสพติด
"พิชัย" หารือ "รมต.พาณิชย์-อุตสาหกรรม" บาห์เรน ยกระดับสัมพันธ์การค้า จัดทำ FTA เชื่อม 2 ปท.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น