วันนี้ นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง “สามกีบดิ้นทุกครั้งที่ถูกจับได้” พร้อมภาพข้อมูลคดีทุจริตของนายทักษิณ ชินวัตร และภาพข้อความที่ถูกผู้ใช้เฟสบุ๊กวิจารณ์ว่านายอัษฎางค์เป็นแค่เด็กเสริฟ์โรงแรมและเป็นแค่ภารโรง
“อัษฎางค์” เย้ยสามกีบดิ้นแหลก ปม “รังสิมันต์-ปวีณ” ถูกจับได้ ซัดคนดีที่ไหนขอลี้ภัยด้วยการโยนบาปให้สถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่ต้นเหตุเป็นเรื่องปัญหาการเมืองและระบบราชการ
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยนายอัษฎางค์ ระบุว่า เรียกผมเพื่อด้อยค่าว่าไอ้เด็กเสิร์ฟ ทั้งที่ผมไม่เคยเป็น แล้วจะเรียกอดีตนายพลปวีณว่า “ไอ้คนงานทำสวน” หรือไม่ อยากรู้! ความเสมอภาคของสามกีบ ตั้งแต่ผมโพสต์ตั้งข้อสังเกต เพราะมันผิดสังเกตในเรื่องของคุณปวีณที่ก้าวไกลงัดเอามาขย่มรัฐบาลและสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีคำไหนหรือบรรทัดไหน ที่ผมอวยว่าระบบราชการของไทยไม่มีเรื่องฉ้อฉล การใช้อำนาจในทางมิชอบ การคอรัปชั่น มันเกาะกินสังคมไทยมาตลอด 90 ปี นับตั้งแต่คณะราษฎรปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง เบื้องหน้าคณะราษฎรปล้นพระราชอำนาจของพระเจ้าอยู่หัวเพื่อให้ประชาชนได้ความเสมอภาค แต่ความจริงในทางปฏิบัติ คณะราษฎรปล้นพระราชอำนาจของพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นของตนและพรรคพวก และมรดกของการปฏิวัติในครั้งนั้นก็คือระบบราชการที่ฉ้อฉลในหลายมิติ เช่น กรณีคุณปวีณ ที่รังสิมันต์ โรม พาดหัวเรื่องว่าคนดีโดนรังแก คนชั่วได้ดี ผมจะไม่แปลกใจและตั้งข้อสังเกตใดๆ เลยถ้าคุณปวีณ และรังสิมันต์โรม จะพาดพิงถึงปัญหาของระบบราชการ เพราะมันมีอยู่จริง แต่ผมเห็นความผิดสังเกตจากข้ออ้างที่รังสิมันต์ โรม ยกเรื่องคุณปวีณใช้ทำเรื่องขอลี้ภัยในออสเตรเลีย ด้วยการโยนบาปว่าถูกสถาบันพระมหากษัตริย์คุกคาม ด้วยการใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือ โดยยกตัวอย่างว่ามีคนที่ต้องตายเพราะถูกคนที่รับใช้ใกล้ชิดใต้เบื้องพระยุคลบาทยัดข้อหาตามมาตรา 112 ทั้งที่ปัญหาของคุณปวีณคือการฉ้อฉลของระบบราชการ มิได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัติย์เลย จึงอยากรู้ว่ามีคนดีที่ไหน ที่โยนความผิดของปัญหาทางการเมืองของระบบราชการ และการบริหารราชการแผ่นดินไปให้พระมหากษัตริย์ ซึ่งพระองค์ไม่มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องการเมืองและการบริหาร อยากรู้ว่ามีคนดีที่ไหน ที่ขายชาติขายแผ่นดิน เพื่อตนเอง
นายอัษฎางค์ ระบุอีกว่า เมื่อผมโพสต์ถึงข้อผิดสังเกตเหล่านี้ ก็ทำให้คนสามกีบ ดิ้นเป็นผีเข้าทุกครั้งเมื่อไอดอลของตนถูกขุดถูกค้นจนพบกลโกง ดิ้นด้วยการคุกคาม ดูหมิ่น เหยียดหยาม ด้อยค่า ผู้อื่น ทั้งที่ปากก็เรียกร้องสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค เช่นที่ทำกับผมเสมอ ด้วยการด้อยค่าว่า ไอ้เด็กเสริฟ บ๋อย ภารโรง ฯ อย่างไรก็ตามปัจจุบันเมื่อคุณปวีณลี้ภัยอยู่ในออสเตรเลีย รัฐบาลออสซี่ก็ให้คุณปวีณเลือกฝึกวิชาชีพ เพื่อจะได้มีประกอบอาชีพ ซึ่งคุณปวีณเลือกฝึกอาชีพเป็นคนงานทำสวนทำไร่ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นการทำสวนทำไร่ในบ้านนอกบ้านนา คุณปวีณไม่ได้เป็นเจ้าของไร่ เป็นแค่คนงาน ผมไม่ได้ดูหมิ่น ด้อยค่า เหยียดหยามคุณปวีณนะ เราอยู่ออสเตรเลียเหมือนกัน เรารู้ว่าประเทศนี้เขาไม่เคยดูหมิ่น ด้อยค่า เหยียดหยามอาชีพใดๆ เพราะทุกอาชีพมีคุณค่าในตัวเอง และสามารถสร้างรายได้ สร้างฐานะได้เท่าเทียมกัน ดังนั้นคุณสามกีบจะเรียกท่านปวีณ ซึ่งตอนอยู่เมืองไทยเป็นนายพล แต่พอมาอยู่เมืองนอกเป็นไอ้บ้านอกคนงานทำไร่หรือไม่ เด็กสามกีบแสดงความเห็นว่า “คนเป็นตำรวจ และข้าราชการ ที่มียศใหญ่โตหาเงินในไทยได้มหาศาล ถ้าจะเอาใต้โต๊ะ จะมีหมาตัวไหนทิ้งขุมทรัพย์ไปขอลี้ภัย” ขอตอบว่า “รู้จักอดีตข้าราชการตำรวจที่กลายเป็นข้าราชการการเมืองที่ชื่อทักษิณมั้ย เขาลากน้องสาวร่วมขบวนทิ้งขุมทรัพย์มหาศาล และขอลี้ภัยอยู่ในขณะนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-
