จากกรณีที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้เข้าช่วยเหลือครอบครัวนายสวาท เกิดก่อ อายุ 46 ปี ใน อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช อาชีพขับรถบรรทุกรับจ้างหลังที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อปีที่แล้ววันที่ 4 สิงหาคม 2562 โดยขับรถบรรทุกส่งมังคุด เกิดอาการหลับในชนเสาไฟฟ้าและมีปัญหาเกี่ยวกระดูกไขสันหลังทำให้ร่างกายตั้งแต่อกลงมามีอาหารชาไม่มีความรู้สึกขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้ แขนขา เล็กลีบ หยิกงอ ร่างกายซูบผอม กลายเป็นคนพิการติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้โดยปริยาย และยังมีแผลกดทับที่ตะโพกอีกด้วย ทำให้ภาระทั้งหมดในการหาเลี้ยงครอบครัวทั้งสามีที่พิการติดเตียงและลูก ๆ อีก 3 คน ตกอยู่กับ น.ส.วิชุนันท์ ไตรรัตน์ อายุ 34 ปี ภรรยาของนายสวาท เกิดก่อ เพียงคนเดียว จนเคยคิดจะฆ่าตัวตายทั้งครอบครัวเพื่อหนีปัญหา อย่างไรก็ตามหลังศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช และผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือเบื้องต้นจนจ่ายค่าเช่าบ้านที่ค้าง 2 เดือน 4,000 บาท ค่าน้ำค่าไป 2 เดือน 2,500 บาท และย้ายออกจากบ้านเช่าหลังเดิมไปเช่าบ้านหลังใหม่ที่ถูกกว่าแค่เดือนละ 1,000 บาท ซึ่งสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ในระดับหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวไปตามลำดับแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 26 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่าศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมนางกมลทิพย์ กุลคง หรือ “พี่มล”อายุ 48 ปี อยู่เลขที่ 65 หมู่ 15 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของกิจการสวนส้มโอทับทิมสยาม “ป้าแดง-ลุงแอ๊ด” ได้เดินทางเข้าเยี่ยมครอบครัวของ น.ส.วิชุนันท์ ไตรรัตน์ ซึ่งย้ายจากบ้านเช่าเดิมมาอยู่บ้านเช่าใหม่เลขที่ 159/7 หมู่ 16 ต.รอนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ที่ราคาค่าเช่าถูกกว่าแค่เดือนละ 1,000 บาท และพบว่าทั้งครอบครัว 5 ชีวิตอยู่กันพร้อมหน้าเนื่องจากฝนที่ตกหนักทำให้ น.ส.วิชุนันท์ ไม่สามารถออกไปรับจ้างขายลอตเตอรี่ได้ตามปกติ โดยนางกมลทิพย์ ได้มอบเงินสดช่วยเหลือครอบครัว น.ส.วิชุนันท์ จำนวน 2,000 บาท พร้อมส้มโอทับทิมสยามอีก 1 ถุงใหญ่ประมาณ 10 ลูก
นางกมลทิพย์ กล่าวว่า จากการพูดคุยสอบถาม น.ส.วิชุนันท์ ว่า ด.ช.นพเก้า เกิดก่อ อายุ 12 ปี ลูกชายคนโตเรียนชั้น ป.6 จะไม่ขอเล่าเรียนต่อเพราะสงสารแม่ที่ต้องออกวิ่งนรับจ้างทำงานหาเงิน และอยากจะออกมาโรงเรียนมาอยู่บ้านเพื่อจะได้ปรนนิบัติดูแลนายสวาท เกหิดก่อ พ่อที่พิการอัมพาตติดเตียงอย่างใกล้ชิด ตนอยากให้ ด.ช.นพเก้า ได้เรียนต่อเพื่ออนาคตข้างหน้า หากมีปัญหาเรื่องทุนการศึกษาตนรับปากว่าจะให้การช่วยเหลือจัดหาทุนการศึกษาให้เอง ส่วน น.ส.วิชุนันท์ ที่ต้องรับภาระคนเดียวในการวิ่งทำงานรับจ้างขายลอตเตอรี่ เพื่อหารายได้เลี้ยง 5 ชีวิตขอให้มีกำลังใจในการต่อสู้ฝ่าฟันปัญหาให้ต่อไปให้ได้ หากมีปัญหาจนคิดว่าไม่สามารถแก้ไขได้ขอให้แจ้งผ่านศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ตนพร้อมที่จะช่วยเหลือตามความเหมาะสมต่อไป
น.ส.วิชุนันท์ ไตรรัตน์ ตนต่อสู้ชีวิตอย่างยากลำบากมานานเกือบ 4 ปี ตั้งแต่สามีประสบอุบัติเหตุจนพิการอัมพาตติดเตียง เมื่อก่อนค้าขายเฉาก๊วย และนมสด แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 จนต้องหยุดไป ในปัจจุบันหันมารับจ้างลายลอตเตอรี่ โดยขับรถ จยย.เก่า ๆ ตระเวนขายไปตามหมู่บ้านชุมชน 1-2 ชม.จะต้องกลับมาดูแลสามีและลูก รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย จนต้องเอารถ จยย.ไปจำนำเอาไว้นำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวค้างทั้งต้นและดอกอยู่หลายเดือนแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนไปไถ่ถอน แต่หากต้องสูญเสียรถ จยย.ไปจริง ๆ ก็ต้องทำใจเพราะจนใจที่จะหาเงินไถ่ถอน
สำหรับลูก 3 คน ๆ โตคือ ด.ช.นพเก้า เกิดก่อ อายุ 12 ปี เรียนชั้น ป.6 แจ้งความประสงค์ว่าจะไม่ขอเรียนต่ออีกแล้วเพราะอยากจะดูแลปรนนิบัติพ่อ คนที่ 2 ชื่อ ด.ญ. นพมาศ เกิดก่อ อายุ 8 ขวบ เรียนชั้น ป.2 และคนที่ 3 ชื่อ ด.ญ.นพกานต์ เกิดก่อ อายุ 4 ขวบ เรียนชั้นบริบาล ซึ่งตนอยากให้ลูกทั้ง 3 คนเรียนอย่างน้อยได้จบ ม.3 ก็ยังดีชีวิตในอนาคตจะได้ไม่ลำบากมากนัก เพราะตนก็ไม่รู้ว่าร่างกายจะสู้ต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน น.ส.วิชุนันท์ ไตรรัตน์ กล่าวอย่างน่าสงสาร ซึ่งผู้ใจบุญสามารถบริจาคช่วยเหลือได้ที่บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 448-0-38065-0 ชื่อบัญชี น.ส.วิชุนันท์ ไตรรัตน์ โดยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ เบอร์โทร 062-9290612 .
กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์/จ.นครศรีธรรมราช