วันนี้ (27 ก.พ. 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน รวมทั้งเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ยิ่งทำให้ประชาชนยิ่งต้องดิ้นรนหารายได้เพื่อนำมาต่อสู้กับการดำเนินชีวิตเพื่อให้อยู่รอดในยุคนี้ ไม่ว่าจะหาอาชีพเสริมหลังจากว่างเว้นจากงานหลัก หรือบางคนอาจทำเป็นอาชีพหลักไปแล้ว โดยเฉพาะอาชีพเร่ขายผลไม้ข้างทางต่างๆที่มักจะเห็นได้ทั่วไป ซึ่งไม่ต่างจากนายมนตรี ระหาร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205/1 บ.นาสนวน ม.9 ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ พ่อค้าขายมะพร้าวน้ำหอมส่งกัมพูชา ก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดที่ด่านชายแดนไทย-กัมพูชาช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีษะเกษ ต้องปิดชายแดน ทำให้ไม่สามารถส่งขายมะพร้าวน้ำหอมออกไปได้ ต้องพาภรรยาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการขาย ด้วยการทำมะพร้าวถอดเสื้อขาย ที่หลังกระบะรถยนต์ 4 ประตูของตนเอง ในราคาถูกเพียงลูกละ 20 บาท โดยจอดขายข้างทาง บริเวณหน้าตลาดตาแงะ ตรงข้ามตลาดชายแดนช่องจอม บ.ด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และได้รับความนิยมจากลูกค้าและประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาจอดรถแวะซื้อไปทานตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะชาวกัมพูชาที่ชื่นชอบทานมะพร้าวน้ำหอมเป็นพิเศษ เนื่องจากมะพร้าวถอดเสื้อเริ่มได้รับความนิยมในช่วงนี้เพราะกินง่าย เมื่อดูดดื่มน้ำมะพร้าวหมดแล้ว สามารถใช้มือหรือใช้ช้อนฉีกแคะหรือใช้ช้อนตักทานได้เลย ไม่เหมือนมะพร้าวน้ำหอมทั่วไปที่พ่อค้าแม่ค้า มักจะแค่เฉาะเปิดฝากะลา ให้พอได้ใส่หลอดดูดเท่านั้นและเมื่อลูกค้าจะทานเนื้อก็จะต้องหามีดมาผ่าอีก ทำให้การบริโภคเป็นไปอย่างยากลำบาก ทำให้มะพร้าวถอดเสื้อ จึงได้รับความนิยมมากกว่าในช่วงนี้
โดยมะพร้าวถอดเสื้อของนายมนตรี ระหาร ไม่ได้ถอดหรือปอกกะลาออกทั้งลูก แต่ปอกกะลาออกเพียงครึ่งลูกเท่านั้น เพื่อให้อีกครึ่งลูกเป็นภาชนะรองแทนการใช้ถ้วยพลาสติกเหมือนเจ้าอื่น ทั้งนี้เพื่อลดการใช้พลาสติกไปในตัว รวมทั้งยังสามารถประหยัดงบประมาณให้สามารถขายมะพร้าวถอดเสื้อได้ราคาถูกลง เหมาะกับยุคเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ประชาชนจะต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดกันมากขึ้นอีกด้วย
นายมนตรี ระหาร พ่อค้าขายมะพร้าวถอดเสื้อ กล่าวว่า ตนเห็นว่าเขากำลังฮิตทำมะพร้าวถอดเสื้อกันในช่วงนี้เลยมาลองขายดู หลังจากก่อนหน้านี้ส่งขายมะพร้าวน้ำหอมลงกัมพูชาผ่านชายแดนช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีษะเกษ หลังชายแดนปิดเพราะพิษโควิด-19 ก็เลยปรับเปลี่ยนหากลยุทธ์ในการขายใหม่ จึงเลือกที่จะทำมะพร้าวถอดเสื้อ ที่ไม่ถอดออกทั้งลูกเพื่อประหยัดต้นทุน ไม่ต้องใช้ถ้วยพลาสติก ทำให้สามารถขายได้ถูกลง ลูกค้าก็ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เพียงลูกละ 20 บาท เพราะถ้าใช้ถ้วยพลาสติกก็จะต้องขายลูกละ 35-40 บาท วันหนึ่งเฉลี่ยขายได้ประมาณ 100 ลูกต่อวัน ก็พออยู่ได้ ส่วนมะพร้าวตนก็เดินสายรับซื้อของชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆลูกละ 5 บาท แล้วก็เก็บและขนไปขาย เมื่อก่อนก็ขายมะพร้าวน้ำหอมธรรมดา เฉาะเปิดฝากะลามะพร้าวแล้วก็ใส่หลอดดูดขาย ลูกละ 10-15 บาท แต่ขายไม่ดี เท่ามะพร้าวถอดเสื้อ น่าจะทานเนื้อได้ง่ายด้วย จึงมีลูกค้านิยมกันมากขึ้น หากลูกค้าท่านใดสนใจก็สามารถแวะมาซื้อได้ หรือใครสนใจมะพร้าวน้ำหอมเป็นลูกๆหรือมะพร้าวแก่มะพร้าวสุกก็สั่งได้ ตนมีของขายให้ตลอด ติดต่อได้ที่เบอร์ 095-215-1447 นายมนตรีฯกล่าว.
ภาพ/ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์
