วันที่ 7 มิ.ย. 64 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงกรณี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า พรรคร่วมรัฐบาลกำลังจะแพแตก อยู่ได้อีกไม่นานนั้น
นายเสกสกลกล่าวว่า” รัฐบาลยังมีเสถียรภาพมั่นคง รัฐมนตรีทุกคนทุกพรรคที่มาร่วมรัฐบาล ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะขัดแย้งกันเพราะมีนายกรัฐมนตรีคอยเป็นหลักและให้กำลังใจรมต.ทุกคนในครม.ที่ทำงานเสียสละเพื่อบ้านเมือง โดยนายกฯเน้นให้ทุกคนเสียสละ อย่าทำงานเพื่อหวังผลประโยชน์แอบแฝงส่วนตัวใดๆทั้งสิ้น
“การออกมาพูดของนายประเสริฐฯเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เด็กเมื่อวานซืนก็อ่านทางออกว่า พรรคเพื่อไทยอยากมีอำนาจรัฐ เพราะเป็นฝ่ายค้านมานานถึง 7 ปี คงทำใจไม่ได้เพราะเคยอยู่ในอำนาจรัฐมายาวนาน และตนมีแหล่งข่าวน่าเชื่อถือว่า ให้สังเกตุในห้วงระยะเวลานี้ นายโทนี่ทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ สองศรีพี่น้องจะพยายามออกมาวิพากย์วิจารณ์รัฐบาลบ่อยๆ รับมือสอดคล้องกันกับพรรคเพื่อไทยและกลุ่มเคลื่อนไหวออกมาขับไล่นายกฯเป็นระยะในช่วงนี้ เพราะเป้าหมายคือล้มรัฐบาล อยากกลับขึ้นมามีอำนาจโดยไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่สนใจวิกฤตโควิด แต่จะคอยจ้องถล่มว่า รัฐบาลกำลังจะมีแผลหรือผิดพลาดเรื่องอะไร จะช่วยกันรุมถล่มโจมตีทันที
“ส่วนตัวตนเองอยากตั้งคำถามว่า มีเป้าหมายหลักๆที่อยากกลับมามีอำนาจรัฐ เมื่อมีอำนาจรัฐก็จะเดินเกมส์เป้าหมายเดิมสองเป้าหมายนี้ใช่ไหม 1.กดดันขับไล่นายกฯให้ลาออกหรือลงจากตำแหน่งทุกรูปแบบตนสังเกตุได้ว่า ช่วงนี้เอาสมุนคนเดิมๆที่เริ่มหมดสภาพปลุกวิญญาณขึ้นมาใหม่ แล้วเริ่มเดินแผนตามรูปแบบเก่าๆรวบรวมชักชวนผีไร้วิญญาณบางตนออกมาขับไล่นายกฯ หมากเกมส์ตื้นๆใครก็อ่านออก แนวร่วมออกมาน้อยเพราะประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อไปเพื่อแก้ไขปัญโควิดและปัญหาของบ้านเมืองต่อไป จึงทำให้คนเหล่านี้ไม่มีเสียงตอบรับ และคนส่วนใหญ่ยังมองว่า นายกฯยังทำงานได้ดีที่สุดในภาวะวิกฤตโควิดนี้
2.ถ้าเครือข่ายโทนี่ทักษิณทำสำเร็จได้อำนาจรัฐกลับคืนมา พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลเรียบร้อย เป้าหมายต่อไปคือออก พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยให้สำเร็จ เพื่อล้างมลทินให้กับตระกูล ชินวัตรและนำสองคนพี่น้องกลับบ้านให้ได้
” ตนจึงมองเห็นความเคลื่อนไหวของนายโทนี่ทักษิณ กับนางสาวยิ่งลักษณ์ออกมาพูดอยากกลับบ้านบ่อยๆเรียกร้องความเห็นใจในช่วงนี้ ผสมกันกับที่สมุนในพรรคเพื่อไทยบางคนออกมาถล่มรัฐบาลรายวัน แถมยังมีกลุ่มเคลื่อนไหวสายเดิมๆออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนนอีก ช่างเข้าแผนรับลูกกันเป็นระนาด หมากเกมส์นี้ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่รู้ทัน ไม่มีวันยอมอย่างแน่นอน
“ตามที่นายโทนี่ทักษิณบอกว่าถ้ากลับมาเป็นผู้นำจะแก้ปัญหาประเทศให้จบภายใน 6 เดือน มีคนให้ตนบอกว่า ขี้โม้มากกว่า แค่เอางานที่เคยรับปากประชาชนตอนเป็นผู้นำรัฐบาลสองเรื่อง คือ เรื่องแก้ปัญหาจราจรใน กทม.ให้เรียบร้อยภายใน 6เดือนอยู่นานกว่า5 ปีแถมมีรัฐบาลที่นายโทนี่ทักษิณ สั่งการได้อีกสามนายกฯยังแก้ไขไม่ได้เลย ไม่สมราคาคุย และที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงรับปากว่าจะให้ชาวนาหมดหนี้หมดสินทุกครัวเรือน แต่ตรงกันข้ามกลับทิ้งหนี้ทิ้งสินให้ชาวนา จนต้องผูกคอตายไปหลายราย และทำให้รัฐบาลนี้ต้องตามชดใช้หนี้ชาวนาแทน จึงเชื่อถือในสาระคำพูดนายโทนี่ทักษิณไม่ได้ แค่เป็นการปั่นกระแสดราม่าให้ตนเองเพื่อให้สมุนหรือเครือข่ายฮึกเหิม โดยไม่สนใจว่า จะส่งผลทำให้บ้านเมืองแตกแยกความสามัคคี ขัดแย้งกันเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ทำไมไม่คิดสงสารประเทศไทย สงสารคนไทยบ้างเลย และพยายามใส่ความโจมตีนายกฯและรัฐบาลให้ดูด้อยค่า พร้อมกับลูกสมุนที่คอยเคลื่อนไหว คอยรับบัญชาตามคำสั่งนายใหญ่ เพื่อขับไล่นายกฯ โดยไม่ต้องสนใจความเดือดร้อนของประชาชน ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไร อย่าคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่โง่ จะรู้ไม่ทันเล่เหลี่ยมหมากเกมส์นี้ของนายโทนี่ทักษิณ และเครือข่าย
“นายกฯพลเอกประยุทธ์ไม่มีเวลามาตอบโต้ ไม่มีเวลามาเล่นการเมืองกลับใครและไม่มีเวลามาขี้โม้ขี้คุย เหมือนนายโทนี่ทักษิณ แต่นายกฯจะพูดจริงทำจริง ประกาศการฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ นับดีเดย์ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป จนถึงเดือนธันวาคม ปลายปีนี้ รวมระยะเวลาประมาณ 6เดือนจะต้องมีการฉีดวัคซีนให้ครบเกือบทั้งประเทศและเริ่มต้นศักราชย์ปีใหม่2565 ประเทศไทยจะได้เริ่มต้นมีเศรษฐกิจดีขึ้นเพราะรัฐบาลมีแนวทางที่จะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่ปลอดภัยจากโควิดและฉีดวัคซีนครบแล้ว อนุญาตให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ เศรษฐกิจการท่องเที่ยวก็จะเริ่มกลับมาฟื้นตัว การค้าการขายการลงทุนก็จะเริ่มกลับมาคึกคัก รวมถึงโครงการเครือข่ายการคมนาคม การลงทุนก่อสร้างจะเกิดขึ้นมากมายอย่างต่อเนื่องหลายเส้นทาง นี่ไงตัวอย่างนายกฯใจซื่อมือสะอาด นายกฯคนที่ไม่ต้องคุยขี้โม้โอ้อวด แต่ลงมือทำจริง ไม่ต้องมาเสียเวลาคิดหาเงินทอนใส่กระเป๋าตนเอง หรือแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง นายกฯมีความตั้งใจเดินหน้าทุ่มเททำงาน และรักษาผลประโยชน์ของประชาชนอย่างเต็มที่ สุดความสามารถ ”