จับตา 4 มีนา ศาลปกครองสูงสุด พิจารณาคำสั่ง คมนาคม รฟท. อุทธรณ์ ค่าโง่โฮปเวลล์ 2.5 หมื่นล้าน

จับตา 4 มีนา ศาลปกครองสูงสุด พิจารณาคำสั่ง คมนาคม รฟท. อุทธรณ์ ค่าโง่โฮปเวลล์ 2.5 หมื่นล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ 4 มี.ค. 65 เวลา 13.30 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ผู้ร้อง ยื่นฟ้องบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ถูกร้อง กรณีกระทรวงคมนาคมอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองชั้นต้นที่ไม่รับคำฟ้องขอรื้อฟื้นคดีใหม่ไว้พิจารณา ในวันที่ 4 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น.

โดยคดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้ยกคำร้องของกระทรวงคมนาคมและรฟท. และให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ผู้ร้องจึงมีหนังสือลงวันที่ 18ก.ค.62 กรกฎาคมขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา

กระทรวงคมนาคม และ รฟท.จึงยื่นคำร้องอุทธรณ์ซึ่งศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น แต่ต่อมา กระทรวงคมนาคม และ รฟท. มีหนังสือลงวันที่ 14 มิ.ย. 64 ขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่และของดการบังคับคดี ศาลปกครองชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2564 กรณีมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 45 ที่กระทรวงคมนาคม และ รฟท.อ้างว่า เป็นการออกระเบียบโดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายบัญญัติ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งกรณีดังกล่าว เป็นกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขั้นตอนการออกระเบียบของศาลปกครองดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญเท่านั้น และเมื่อข้อเท็จจริง ปรากฏอีกว่า ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดในคราวประชุมดังกล่าวมีมติในประเด็นที่จะต้องพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องระยะเวลาการยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองโดยตรงในคดี อันเป็นเงื่อนไขในการฟ้องคดี การวินิจฉัยว่าคณะอนุญาโตตุลาการรับข้อพิพาทไว้พิจารณาและมีคำวินิจฉัยชี้ขาดนั้น ขัดต่อบทกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่ อันเป็นการวินิจฉัยในส่วนของเนื้อหาคดี ดังนั้น วัตถุแห่งคดีและข้อกฎหมายอันเป็นการก่อตั้งข้อพิพาทแห่งคดีนี้ จึงแตกต่างไปจากคดีตามมติที่ประชุมใหญ่พิพาท อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า การพิจารณาพิพากษาของตุลาการในศาลปกครองสูงสุดตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวอ้างในคดีระหว่างกระทรวงคมนาคม และ รฟท.กับบริษัท โฮปเวลล์ เป็นการกระทำทางตุลาการ อันแสดงให้เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวไม่มีผลผูกพันศาลในคดีนี้ รวมทั้งถือได้ว่าคดีนี้ศาลได้มีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแล้ว ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ดังนั้น จึงไม่กระทบต่อคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดแล้ว ตามมาตรา 212 วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญ ประกอบกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นเพียงการชี้ขาดสถานะทางกฎหมายของมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 เท่านั้น จึงไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายที่ศาลปกครองสูงสุดใช้ในการวินิจฉัยตีความในคดีดังกล่าว จึงไม่มีผลผูกพันคดีที่กระทรวงคมนาคมและรฟท.ยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่คดีนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับประเด็นที่กระทรวงคมนาคม และ รฟท.มีคำขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 เป็นพยานหลักฐานใหม่ อันมีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติแล้วในคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ และยังเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่ทำให้เห็นว่าศาลปกครองสูงสุดรับฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด อันเป็นเหตุที่ศาลปกครองต้องพิจารณาคดีนี้ใหม่นั้น ศาลฯเห็นว่า เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีขึ้นภายหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาแล้ว จึงถือไม่ได้ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานใหม่แต่อย่างใด การที่ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยเป็นการใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยคดีของศาล และเป็นการตีความกฎหมายของศาล มิใช่เป็นการนำข้อเท็จจริงที่ได้จากคำอุทธรณ์ของผู้คัดค้านมาปรับกับข้อกฎหมายแต่อย่างใด จึงถือไม่ได้ว่าศาลปกครองฟังข้อเท็จจริงผิดพลาดหรือมีพยานหลักฐานใหม่อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นที่ยุติแล้วนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ

ส่วนกรณีที่กระทรวงคมนาคม และ รฟท.อ้างว่า การที่ศาลปกครองสูงสุดหยิบยกเอามติที่ประชุมใหญ่ซึ่งไม่มีสถานะเป็นกฎหมายมาวินิจฉัยอ้างอิงพิจารณาทำคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เห็นว่า มิได้มีข้อบกพร่องในการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล ข้ออ้างของผู้ร้องทั้งสองจึงเป็นการโต้แย้งการใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยคดีของศาล และการตีความกฎหมายของศาล ไม่ถือเป็นข้อบกพร่องสำคัญในกระบวนการพิจารณาพิพากษาที่ทำให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรมแต่อย่างใด นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงในคดีนี้ยังปรากฏอีกว่า ทั้งคณะอนุญาโตตุลาการแลศาลปกครองชั้นต้นต่างก็มิได้วินิจฉัยในประเด็นเรื่องวันรู้เหตุแห่งการเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ โดยนำแนวทางตามมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 ที่พิพาทมาใช้จึงแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งอีกว่า คณะอนุญาโตตุลาการและศาลไม่ผูกพันและไม่จำต้องนำมติที่ประชุมใหญ่ที่พิพาทดังกล่าวมาใช้โดยเคร่งครัดในฐานะระเบียบหรือข้อกฎหมายดังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เป็นเพียงการใช้ดุลพินิจในการตีความกฎหมาย ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น คำขอพิจารณาคดีใหม่ของผู้ร้องทั้งสองจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ได้ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง (1) (3) และ (4) แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 จึงมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา

กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด สรุปความได้ว่า ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ถูกต้องสำหรับการนับระยะเวลาหรืออายุความการฟ้องคดีต่อศาลปกครองสำหรับประเด็นการยื่นข้อเรียกร้องของผู้คัดค้านต่ออนุญาโตตุลาการในคดีนี้ ตามมาตรา 51 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ และที่แก้ไขเพิ่มเติม คือ ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้คัดค้านรู้หรือควรรู้เหตุแห่งการฟ้องคดี คือ ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 2541 ซึ่งเป็นวันที่หนังสือบอกเลิกสัญญาของผู้ร้องทั้งสองไปถึงผู้คัดค้าน มิใช่นับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2544 อันเป็นวันที่ศาลปกครองเปิดทำการ ซึ่งกระทรวงคมนาคม และ รฟท.เห็นว่า ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่กล่าวอ้างเข้าหลักเกณฑ์และองค์ประกอบการพิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา 75(4) พ.ร.บ.บัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"บิ๊กเต่า" เผยเช็กมือถือ "บอสพอล" พบคลิปรีดไถ "นักร้อง-นักการเมือง" เพียบ จ่อเรียกสอบปากคำ
“ภูมิ​ธรรม​-​อนุทิน”​ ประสานเสียง ไม่หวั่น​กกต. รับคำร้อง​ยุบเพื่อไทย​ปม​ 6 พรรคร่วม ให้“ทักษิณ”ครอบงำ
เปิดตัวสุดปัง! Chester’s Flagship Store @Siam ชูคอนเซ็ปต์ 'Good Food Good Mood' เพิ่มสีสันให้แลนด์มาร์กคนรุ่นใหม่
รอลุ้น “ธีรภัทร” เผยพร้อมย้ายช้าง “พลายดอกแก้ว” พรุ่งนี้ หลังผลตรวจเลือดออก
"ชูศักดิ์" ไม่หวั่น​ หลังมีข่าว​กกต.​รับคำร้องคดียุบเพื่อไทย
ตร.รวบ “เหม่ง ปากดำ” ยูทูปเบอร์คนดัง ขวัญใจวัยโจ๋ เจ้าของยอด 5 ล้านวิว พบเอี่ยวเว็บพนันฯ กว่า 10 เว็บไซต์
เหยื่อดิไอคอนกรุ๊ปยังไม่หมด ! แม่จูงมือลูกสาวป่วยออทิสติก เข้า แจ้ง ตร.พัทยา ลงทุนสมัครดีลเลอร์กว่า 2 แสนบาท ซัดเวรกรรมมันติดจรวด บอสพอลสมควรได้รับมัน
"ตร.สอบสวนกลาง" เตรียมปิดรับแจ้งความคดี "ดิ ไอคอนกรุ๊ป" ล็อตแรก
“วันนอร์” พร้อมตรวจสอบทางลึกพวกแอบอ้าง ชี้หากกมธ.ไม่จัดการ ประธานอาจถึงขั้นถูกศาลฎีกาให้พ้นตำแหน่ง
"สพป.ขอนแก่น เขต 2" สั่งพักราชการ ผอ.โรงเรียนดัง ปมไม่จ่ายเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐาน 500 บาทให้เด็ก นร.ยากจน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น