วันที่ 3 มี.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีนามบัตรเพื่อติดต่อในการกู้เงิน กว่า 5 หมื่นใบ พร้อมด้วยสมุดบัญชีลูกหนี้ บัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด รถยนต์และรถจักรยานยนต์อีกจำนวนมาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในของกลางที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจสังกัดภูธรจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย และจังหวัดนครพนม ตรวจยึดได้ จากการแก้ปัญหาเงินกู้นอกระบบ ภายใต้ยุทธการ “สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ หยุดการข่มขู่เอารัดเอาเปรียบประชาชน” เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากที่ได้สั่งการให้ตำรวจ กวดขันขบวนการเงินกู้นอกระบบ โดยเฉพาะการติดตามดำเนินคดีกับนายทุน ผ่านการสืบสวนจากนามบัตรหรือใบปลิวที่นำมาแจกจ่ายไว้ตามที่สาธารณะต่างๆ จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมได้ถึงนายทุน รวมทั้งการทำงานของตำรวจในพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดขอนแก่น ที่ได้ขยายผลการจับกุมนายทุนเงินกู้ จากที่ มีหญิงวัย60 ปี คนหนึ่งได้เข้าร้องเรียนให้ขอความช่วยเหลือ หลังจากถูกแก๊งทวงหนี้นอกระบบข่มขู่ จนสามารถขยายผลการจับกุมนายทุนได้ ที่จังหวัดกาญจนบุรี
นอกจากนี้ จากการจับกุมแก๊งทวงหนี้นอกระบบในพื้นที่รับผิดชอบสังกัดตำรวจภูธรภาค4 ยังสามารถขยายผลการจับกุมนายทุนได้ ทั้งหมด 9 เครือข่าย โดยแบ่งเป็นพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จับกุมนายทุน 4 เครือข่าย ผู้ต้องหา 18 คน จังหวัดอุดรธานี จับกุมนายทุนได้ 2 เครือข่าย ผู้ต้องหา 9 คน จังหวัดนครพนม จับกุมนายทุนได้ 1 เครือข่าย ผู้ต้องหา 1คน /และจังหวัดหนองคาย จับกุมนายทุน 2เครือข่าย ผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน
ผู้ช่วย ผบตร. ยังฝากถึงนายทุนเงินกู้นอกระบบ ที่ยังพยายายาม แจกนามบัตร หรือประชาสัมพันธ์ ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้องเรียน ซึ่งจะไม่ได้ดำเนินคดีเพียงโทษเปรียบเทียบปรับ เท่านั้นแต่ตำรวจ จะสืบสวนเส้นทางการเงิน และนำส่งสรรพากรเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลย้อนหลัง หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะนำไปสู่การยึดทรัพย์ได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็จะยังคงให้ความเป็นธรรมทั้งคนที่เป็นลูกหนี้ และเจ้าหนี้ด้วย
ขณะที่หนึ่งในลูกหนี้ที่ถูกเจ้าหนี้นอกระบบข่มขู่ ก็ได้เข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ก่อนหน้านี้ โดยเธอเล่าว่า ได้กู้เงินมาจากเจ้าหนี้ทั้งหมด 5 ราย รายละ 5,000 บาท มีเจ้าหนึ่ง กู้เงินมา 15,000 บาท ซึ่งเธอต้องจ่ายดอกเบี้ยทุกวัน วันละ 250 บาท ซึ่งมารายได้ที่มาจากการขายขนมหวานและข้าวโพด ได้วันละ 500 บาท ต้องจ่ายดอกเบี้ยเจ้าละ 250 บาททุกวัน ซึ่งเธอยอมรับว่าจ่ายไม่ไหว และยังมีการข้มขู่ว่าจะยึดของในบ้าน จึงเข้าขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ซึ่งทาง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ก็ได้เข้าให้กำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นว่าจะกวาดล้างเจ้าหนี้โหดอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในภาคอีสาน.
ภาพ/ข่าว นิติกรณ์ ฝางมาลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ขอนแก่น