“ผบช.ภ.1” ไม่หนักใจพ่อตา “ไฮโซปอ” เป็นมือดีด้านสืบสวน ปัดรับเงิน 3 ล้าน

ส่วนกรณีที่มีคำถามเรื่องเรือลำเกิดเหตุ โดยตั้งแต่คืนเกิดเหตุวันที่ 24 ก.พ. ตอน 5 ทุ่ม เจ้าหน้าที่ไปที่เกิดเหตุและไม่พบเรือ เจอเพียงเจ้าหน้าที่ออกตามหา จนถึงวันรุ่งขึ้นประมาณ 8 โมงกว่า ก่อนทราบว่า เรือที่แตงโมตกไปจอดที่อยู่อู่ตรงข้ามท่าน้ำนนท์ ตำรวจจึงไปที่อู่เอ็นบีซี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ก่อนทำการตรวจพิสูจน์เรืออย่างละเอียดตั้งแต่วันแรก

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยอีกว่า ต่อมาวันอังคารที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจซ้ำและนำเครื่องยนต์ รวมถึงใบพัดไปตรวจด้วย การตรวจของพฐ.ไม่พบว่าเรือที่จอดอยู่ถูกทำลายหลักฐาน โดยตำรวจได้ยึดไว้เป็นของกลางตามกฎหมายตั้งแต่วันที่แตงโมตกลงมา ยืนยันตอนเกิดเหตุตำรวจรับแจ้งเพียงว่ามีคนตกน้ำ ยังไม่พบแตงโม ก่อนติดตามไฮโซปอและคนบนเรือทั้งหมด โดยทุกคนได้เดินทางมาพบตำรวจในวันที่ 25 ก.พ.

ขณะที่ประเด็นการนำเรือลำเกิดเหตุไปทดสอบ แต่ใบพัดเรือเกิดหลุดจนลงแม่น้ำนั้น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ให้ช่างถอดใบพัดเรือไปตรวจพิสูจน์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานตามหลักนิติวิทยาศาสตร์แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้นำเรือไปทดสอบ จากนั้นได้ทำการติดใบพัดและนำเรือลงน้ำ แต่ใบพัดเกิดหลุด แต่เจ้าหน้าที่งมจนเจอแล้ว

อีกทั้งกรณีที่นำเรือไปวิ่งทดสอบกับผู้ที่อยู่บนเรือทั้ง 5 คน โดยการนำแต่ละคนไปลงเรือในพื้นที่จริง เป็นการนำชี้ประกอบคำให้การ โดยผลการดำเนินได้รวมไว้ในสำนวนการสอบสวน ต่อมาวันที่ 2 มี.ค.ได้นำเรือลำจริงไปทดสอบ เพราะเรือมีจีพีเอสและสามารถดึงข้อมูลการวิ่งมาเทียบเคียงกับเวลาและความเร็ว การนำเรือจริงมาทดสอบ เพื่อยืนยันว่าระบบใช้งานได้จริง โดยตรงตามที่เจ้าหน้าที่ต้องการ พร้อมดูสภาพเรือและสภาพน้ำ การเลี้ยวการทรงตัว