ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Warat Karuchit ข้อความว่า
เมื่อกี้คุณหนุ่ม กรรชัย ได้โทรมาหาผม เราได้พูดคุยเรื่องบทบาทและจริยธรรมในการนำเสนอข่าว ทั้งกรณีก่อนหน้าที่ผมเคยร้องเรียน กสทช. และกรณีคุณแตงโมที่ผมเพิ่งโพสต์ไป ซึ่งการพูดคุยกันเป็นไปด้วยดีมาก ผมบอกว่าผมไม่ได้มีอะไรเป็นการส่วนตัวกับคุณหนุ่ม แต่ทำไปตามบทบาทของนักวิชาการสื่อที่ห่วงใยสังคม แล้วก็ให้ข้อเสนอแนะในแง่หลักวิชาการสื่อมวลชนไปบ้าง ซึ่งคุณหนุ่มรับฟังอย่างตั้งใจ แสดงให้เห็นถึงความพยายามของคุณหนุ่มในการเรียนรู้การดำเนินรายการให้ดีที่สุดบนพื้นฐานของสื่อมวลชนที่ดี แม้ว่าตอนนี้จะเป็นคนดังที่สุดคนหนึ่งในประเทศ และไม่จำเป็นต้องโทรมาหาผมเลยก็ตาม
ผศ.ดร.วรัชญ์ กล่าวว่า ซึ่งคุณหนุ่มก็บอกว่า ต่อไปมีอะไร อ.โทรมาแนะนำผมได้เลย ซึ่งทำให้ผมรู้สึกดีใจ ไม่ใช่ดีใจที่คุณหนุ่มโทรมาหาผม แต่ดีใจที่คนสื่อที่มีบทบาทต่อสังคมสูงที่มีความตั้งใจจะพัฒนาตัวเองและใส่ใจด้านกรอบจริยธรรมสื่อ และหวังว่าจะมีคนสื่อแบบนี้อีกมากๆ ที่เปิดใจที่จะพัฒนา ไม่ใช่มีข้ออ้างหรือบางครั้งกลับมาโจมตีผู้ที่ท้วงติง ขอให้กำลังใจคุณหนุ่มในการทำงานต่อไป ก็หวังว่าครั้งนี้อาจจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราได้คุยกัน เพราะหากต่อไปมีอะไรในประเด็นจริยธรรมอีก ผมคงต้องให้ข้อเสนอแนะอีกครับ
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ ผศ.ดร.วรัชญ์ โพสต์ข้อความว่า วันนี้ได้ดูรายการหนึ่งที่กำลังดัง ผู้ดำเนินรายการบอกว่า ได้บันทึกเสียงคู่สนทนาโดยไม่ได้แจ้งก่อน “เพราะกลัวว่าบอกแล้วจะพูดไม่รู้เรื่อง” (ซึ่งน่าจะหมายถึงพูดไม่จริงนั่นเอง) แต่เมื่อจบแล้วได้โทรบอกว่าได้บันทึกเสียงไว้ จะขอเอาไปออกรายการได้ไหม ซึ่งเจ้าตัวก็อนุญาต จึงนำมาออก คำถามคือ การทำแบบนี้เข้าข่ายผิดจริยธรรมสื่อหรือไม่? ในการกฎหมาย ผมเข้าใจว่าไม่ผิด (ถ้าบันทึกเสียงคู่สนทนาตัวเองทำได้ แต่แอบบันทึกเสียงคนอื่นทำไม่ได้ และแอบบันทึกเสียงเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้) อันนี้หากท่านที่ทราบกฎหมายจะช่วยเสริมก็จะขอบคุณครับ แต่ในแง่จริยธรรมสื่อ คำตอบอาจจะไม่ชัดเจนนัก