เมื่อวันที่ 5 มี.ค- ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กดังนี้ “โควิด 19 วัคซีน ความไม่เท่าเทียมการบริการให้วัคซีน
“หมอยง” โพสต์ความเท่าเทียมวัคซีนระหว่างประเทศร่ำรวย-ยากจนแตกต่างกันมาก แนะไทยบริหารจัดการวัคซีนให้ดี หลังมีผู้ฉีดต่อวันน้อยลง เตือนสั่งเข้ามาเก็บเป็นจำนวนมากมีโอกาสหมดอายุ เหตุวัคซีนกลุ่ม mRNA มีอายุสั้น
ข่าวที่น่าสนใจ
ทั่วโลกได้รับวัคซีนไปแล้วประมาณเกือบ 1,1000 ล้านโดส ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศทางตะวันตกประเทศผู้ผลิตวัคซีน ในทางตรงกันข้าม ประเทศในแอฟริกาได้รับวัคซีนไปเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ในขณะที่อเมริกาและยุโรป มีวัคซีนที่เก็บไว้และจะต้องถูกทำลาย เพราะหมดอายุเป็นจำนวนมาก วัคซีนที่ใช้ฉีดขวดหนึ่งมีหลายโดส และในการฉีดขณะนี้ การบริหารวัคซีน ต้องทิ้งเป็นจำนวนมาก เพราะไม่สามารถเก็บไว้ได้ ทำนองเดียวกันกับประเทศไทย
การบริหารวัคซีนต่อไปนี้ เมื่อมีผู้ฉีดต่อวันน้อยลง การสั่งวัคซีนเข้ามาเก็บเป็นจำนวนมาก ก็จะมีโอกาสที่จะต้องหมดอายุ โดยเฉพาะวัคซีนที่มีอายุสั้น การเก็บรักษายาก และขวด 1 ต้องฉีด 10 คนหรือ 15 คน จะทำให้การบริหารวัคซีนยากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม mRNA วัคซีนที่มีอายุสั้น หลังละลายแล้ว อยู่ได้เพียง 1 เดือน จะเก็บแช่แข็งตลอดไปก็มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ในอีก 6 เดือนข้างหน้าไม่มีวัคซีนสายพันธุ์ใหม่ออกมาแน่นอน การมีวัคซีนหรือเก็บไว้จำนวนมาก ก็เสี่ยงต่อการหมดอายุ เราลงทุนกับวัคซีนไปแล้วหลายหมื่นล้านบาท ความเสมอภาคหรือเท่าเทียมระหว่างประเทศ ที่ร่ำรวยกับยากจน มีความแตกต่างกันมาก เป็นเหตุให้อัตราการได้รับวัคซีนในแต่ละประเทศจึงแตกต่างกัน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-