“โพล” ชี้คนไทยเชื่อมั่นรัฐ รับมือวิกฤตโควิด-สงครามยูเครน

ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจ เรื่อง วิกฤตโควิดและสงครามยูเครน พบประชาชนส่วนใหญ่ 82.4% เชื่อมั่นต่อมาตรการช่วยเหลือในยามวิกฤต และ 78.5% เชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการแสดงท่าทีเป็นกลางทางการเมือง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง วิกฤตโควิดและสงครามยูเครน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1,145 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1 – 4 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.4 ระบุ เชื่อมั่นต่อมาตรการช่วยเหลือประชาชนด้านต่าง ๆ ยามวิกฤต เช่น โครงการคนละครึ่ง ขณะที่ร้อยละ 78.5 ระบุ เชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการแสดงท่าทีเป็นกลางทางการเมืองระหว่างประเทศ ยึดหลักมนุษยธรรมสากล เรียกร้องการถอนทหาร ในวิกฤตการสู้รบระหว่างยูเครน กับ รัสเซีย

ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.4 ระบุ เชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการจัดการแก้ปัญหาต่าง ๆ ช่วงวิกฤตโควิด และผลกระทบจากการสู้รบระหว่าง ยูเครน กับ รัสเซีย ร้อยละ 69.3 ระบุ เชื่อมั่นต่อการจ้างงาน การมีงานทำของคนไทย และร้อยละ 65.2 ระบุ เชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้า และ บริการ ในอีก 6 เดือนข้างหน้า

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.1 ระบุ ต้องการกู้เงิน เสริมสภาพคล่อง ร้อยละ 94.4 ระบุ ต้องการได้เงินกู้ตามจำนวนที่เพียงพอต่อการทำธุรกิจ ร้อยละ 92.8 ระบุ ต้องการใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย อำนวยประโยชน์ด้านการค้า การลงทุน คนรุ่นใหม่ ร้อยละ 90.1 ระบุ ต้องการหน่วยงานรัฐ ช่วยค้ำหลักประกันให้เพียงพอ และร้อยละ 85.5 ระบุ ต้องการช่องทางเพิ่มรายได้ ขยายตลาด

อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 94.8 ระบุ ช่วยแก้ปัญหาภาระหนี้ และหนี้นอกระบบ ร้อยละ 88.7 ระบุ ลดต้นทุนการผลิต ร้อยละ 82.5 ระบุ เทคโนโลยี เพิ่มผลผลิตและรายได้ ร้อยละ 80.8 ระบุ มีตลาด ขายสินค้าตรงผู้ซื้อ ตัดพ่อค้าคนกลาง และร้อยละ 69.2 ระบุ สนับสนุน การแปรรูปผลผลิตการเกษตร

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.1 ระบุ ต้องการมีรายได้พิเศษเพิ่ม จากหลากหลายช่องทาง เช่น อาชีพเสริม โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ ร้อยละ 84.6 ระบุช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ร้อยละ 82.1 ระบุ ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานร้อยละ 80.9 ระบุ การศึกษา และพัฒนาทักษะ อาชีพ และร้อยละ 75.3 ระบุ การใช้เทคโนโลยีในการทำงาน หารายได้พิเศษ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 75.6 ระบุ ยังมีความหวังที่จะก้าวต่อไป และร้อยละ 24.4 ระบุ กลัวที่จะเดินไปข้างหน้า
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลนี้ชี้ให้เห็นอย่างน่าสนใจยิ่งว่า มุมมองของประชาชนที่มีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล ในสถานการณ์โควิด-19 และผลกระทบจากการสู้รบระหว่าง ยูเครน กับ รัสเซีย ที่กำลังเกิดขึ้นภาพรวม ประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นว่ารัฐบาล จะสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆและความสมดุลระหว่างประเทศได้

อย่างไรก็ตาม ยังสะท้อนให้เห็นว่า ในความเชื่อมั่น ยังมีความหวั่นใจต่อปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ที่ต้องการให้รัฐบาล โดยหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าไปช่วยเหลือระดับปฏิบัติการมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในการส่งเสริมความมั่นคงทางรายได้ ทั้งการเข้าถึงแหล่งทุน การพัฒนาทักษะแรงงาน การสนับสนุนเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ภาครัฐจัดทำขึ้น การลดต้นทุนการผลิต การขยายตลาด รวมทั้งการแก้ปัญหาภาระหนี้และหนี้นอกระบบ เป็นต้น โดยเฉพาะในกลุ่มมนุษย์เงินเดือน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และกลุ่มเกษตรกร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำสิงคโปร์เตือนสงครามโลกหากถูกบังคับเลือกข้าง
ทหารเกาหลีเหนือพุ่งโขกเสาหนีโดนจับ
ผู้นำสหรัฐฯจี้ปูตินจบสงครามไร้สาระหรือเจอแซงชั่น
สหรัฐฯขึ้นบัญชีฮูตีองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ
DSI เข้าเรือนจำ แจ้งข้อหาเพิ่ม ‘บอสพอล-สามารถ’ สมคบร่วมฟอกเงิน
“นายกฯ” ไลน์ข้ามประเทศคุย “อนุทิน” สั่งแก้ฝุ่น PM2.5
เหยียบกันตายขณะแย่งรับอั่งเปาที่กัมพูชา
ไฟป่าสหรัฐปะทุรอบใหม่ทางเหนือนครแอลเอ
ทรัมป์จ่อเยือนซาอุฯเป็นปท.แรกหวังเงินลงทุนมหาศาล
ครูเล่านาที ทดลองวิทยาศาสตร์ เปลวไฟลุกพรึบ ลวกใบหน้านร.บาดเจ็บ 4 ราย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น