พยานสำคัญ “คดีแตงโม” ย่องเข้าให้ปากคำกลางดึก

ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค1 เรียกสอบปากคำเพิ่มเติมแก๊งเพื่อนที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ท รวมถึงพยานปากสำคัญคดีแตงโม-นิดา โดยพุ่งเป้าไปที่ประเด็นใหม่หลังพบมีการโยนแก้วไวท์ลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา และเร่งลำดับเหตุการณ์ช่วงเวลาแต่ละจุด เพื่อหาข้อเท็จจริงเชื่อมโยงทางคดี

ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค1 เรียกสอบแก๊งล่องเรือสปีด โบ๊ท เพิ่มเติม ประกอบสำนวนคดีการเสียชีวิตของนางสาวนิดา หรือ แตงโม หลังสอบสวนนานกว่า 9 ชั่วโมง นางสาว อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการของแตงโม ได้เดินทางกลับเป็นคนแรก ขณะที่นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน ได้ขอเลื่อนวันให้ปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากไม่สะดวก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ช่วงเวลาประมาณ 20.50 นาฬิกา นางสาวกระติก ได้เดินทางกลับออกจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ทันทีโดยเลี่ยงการให้สัมภาษณ์สื่อ หลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของแตงโม-นิดา เป็นเวลานาน กว่า 7 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ตำรวจยังได้นัดทุกคนที่ร่วมลงเรือในวันเกิดเหตุ รวมถึงโบ ทีเค พยานในคดีอีกคน เข้าให้ปากคำด้วย โดยนายปอ -ตนุภัทร นายโรเบิร์ต และนายจ๊อบ เดินทางมาตามนัด มีเพียงนายวิศาพัช หรือ แซน ที่ไม่ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าติดธุระส่วนตัว ขอเลื่อนนัดออกไปก่อน

พลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยจะเร่งกระชับวงการสืบสวนสอบสวนให้แคบลงในบางประเด็น เพื่อให้ได้คำตอบชัดเจน อธิบายข้อสงสัยได้ครบถ้วน ส่วนการสอบสวนเป็นประเด็นใหม่ กรณีที่มีพยานให้ปากคำอ้างว่า นายโรเบิร์ต โยนแก้วไวน์ หรือ แก้วแชมเปญลงแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ยังไม่ชัดเจนว่า โยนก่อนหรือหลังเวลาเกิดเหตุที่แตงโม-นิดา ตกเรือและโยนลงไปด้วยสาเหตุใด ซึ่งประเด็นนี้

นอกจากการสอบปากคำ ตำรวจยังได้จัดส่งนักประดาน้ำ ดำน้ำค้นหาวัตถุพยานในแม่น้ำเจ้าพระยาในวันเดียวกัน โดยพบแก้วต้องสงสัยในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่พบร่างแตงโม และยังพบถุงบรรจุวัตถุสิ่งของไม่ทราบชนิดอยู่ใกล้กับแก้วต้องสงสัย จึงเก็บไว้เป็นวัตถุพยานและจะส่งตรวจหาตัวอย่างดีเอ็นเอเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของนายโรเบิร์ตและผู้อื่นที่อยู่บนเรือก่อนจะพิจารณาว่า เกี่ยวข้องกับคดีการเสียชีวิตของแตงโมหรือไม่

ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนกำลังมุ่งเน้นไปที่ประเด็น ลำดับช่วงเวลาการเกิดเหตุภายในเรือ ตั้งแต่ช่วงที่เรือเริ่มแล่นเข้ามาใกล้กับจุดเกิดเหตุ การจับเรือครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 โดยมีการเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานที่สามารถหาได้เพิ่มเติม เป็นภาพวงจรปิดจากสถานประกอบการแห่งหนึ่งที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสามารถระบุ ระยะห่างของการขับเรือแต่ละครั้งได้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าวจะมีผลต่อการคำสำนวนคดีของเจ้าหน้าที่ในคดีนี้ ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผลงานชิ้นโบว์แดง "หิมาลัย" เผย "พีระพันธุ์-เอกนัฏ" ผสานกำลังปลดล็อก "โซลาร์รูฟท็อป" ได้สำเร็จ
“อรรถวิชช์-พงศ์พล-ฐิติภัสร์” พร้อมใจโพสต์ปกป้อง “พีระพันธุ์-เอกนัฏ” หลังสื่อทำเนียบตั้งฉายา “พีระพัง” ลั่นพร้อมพังทุกรูปแบบการโกงกิน
"การรถไฟฯ" ออกแถลงการณ์ ยันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ "ที่ดินเขากระโดง" เดินหน้าทวงคืนตามกม. ไม่ใช่ละเมิดสิทธิปชช.
‘อี้ แทนคุณ’ พาเหยื่อร้องปคม. ถูกหลอกข้ามแดนลวงเปิดบัญชีม้า หลังพบมีหมาย 450 คดี
คืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 รถไฟฟ้าบีทีเอส - สายสีทอง ขยายเวลาให้บริการถึงตี 2
“เพื่อไทย” จัดเต็ม ชาวเชียงใหม่เรือนหมื่นแห่ฟัง “ทักษิณ” สว.ก๊องมั่นใจ พ่อใหญ่แม้วช่วยหาเสียงชนะแน่
ชาวบ้านทรุดก้มกราบ “ทักษิณ” ขอปรึกษาปัญหาชีวิต การ์ดรีบยกตัวออก
เกมแล้ว! หนุ่มแต่งรถประดับไฟสี ธีมคริสต์มาส ขับเฉิดฉายทั่วถนน ปรับฉ่ำๆ 2 ข้อหา
แจ้ง 4 ข้อหาหนัก 'อส.เมากร่าง' ยิงสนั่นกลางร้านข้าวต้ม ดับ 2 ศพ เปิดวงจรปิดอีกมุม เห็นวินาทีก่อเหตุชัด
ตร.ไซเบอร์ ขยายผลตามรวบ "ผู้จัดหาบัญชีม้า" แก๊งลวง "ชาล็อต" กว่า 4 ล้านบาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น