วันที่ 10 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์ภาพท่อนไม้จำนวนหลายท่อน และภาพสภาพป่าสาธารณะบางส่วน ที่ต้นไม้ถูกตัดไป มีการทำลายตอไม้และเศษไม้หลายขนาด ซึ่งระบุพื้นที่ป่าดังกล่าวว่าอยู่บริเวณด้านหลังของที่ทำการสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมระบุว่าไม้หลายประเภท ในพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ถูกตัดไปชั่งกิโลขายเพื่อเผาถ่าน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณต้นเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความสงสัยของชาวบ้าน ที่มีความหวงแหนผืนป่าและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา เหตุการณ์ตัดไม้ดังกล่าว ยังไม่มีชาวบ้านหรือผู้นำชุมชนไม่กล้าเข้าแจ้งความ กระทั่งมีผู้ใช้โซเชียลแจ้งผ่านโลกออนไลน์ พร้อมวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบ โดยชาวบ้านระบุว่า เนื่องจากป่าสาธารณะดังกล่าว ถือเป็นสาธารณะสมบัติที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือหากจะมีการดำเนินการใดก็จะต้องมีการประชาคม แต่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีการตัดไม้เบญจพรรณหลายขนาด และเป็นต้นไม้ที่เคยร่วมกันปลูกกลับถูกตัดไป จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นส่วนของฝ่ายความมั่นคง, กอ.รมน., ป่าไม้, ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบ เพื่อที่จะได้ทราบความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าทำไมต้องตัดไม้ในป่าสาธารณะ ก่อนตัดทำไมไม่ทำการประชาคม ทำไมนำไม้ที่เป็นสมบัติส่วนรวมไปชั่งกิโลขาย ขายแล้วเงินเข้ากระเป๋าใคร ทำไมต้องเผาตอและเศษไม้ ทั้งที่ทางรัฐบาลมีนโยบายอนุรักษ์ผืนป่า และรณรงค์หยุดเผา ซึ่งเป็นสาเหตุเพิ่มค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามนายบุญทัน ศรีมุงคุณ นายก อบต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งนายบุญทัน ได้ชี้แจงว่า การตัดต้นไม้บริเวณป่าสาธารณะด้านหลัง อบต.โคกสะอาดดังกล่าว ตนเป็นคนสั่งการให้ชาวบ้านมาตัดเอง เพื่อที่จะได้มีพื้นที่ว่างสำหรับก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะอาด โดยเป็นอาคารเรียนขนาด 3 ชั้น มูลค่าการก่อสร้าง 8 ล้านบาทเศษ
นายบุญทัน กล่าวอีกว่า พื้นที่ป่าดังกล่าว อยู่ระหว่างการขอใช้ที่สาธารณประโยชน์หรือขอถอนสภาพหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) เหตุที่ไม่ได้มีการประชาคมนั้น เพราะเดิมพื้นที่ดังกล่าว สมัยตนเคยเป็นนายก อบต.โคกสะอาด เคยเป็นเวทีมวยติดกับพื้นที่โรงเรียน ช่วงที่ตนว่างเว้นไปประมาณ 8 ปี นายกคนต่อมาไม่ได้ดำเนินการ จึงเกิดความรกร้าง มีต้นไม้เกิดขึ้นเต็มพื้นที่ ขณะเดียวกันยังส่งผลให้จำนวนนักเรียนลดลง จาก 300-400 คนเหลือเพียง 100 กว่าคน เพราะเด็กกลัวงูและสิงสาราสัตว์ในป่า จึงย้ายไปเรียนที่อื่น
นายบุญทัน กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่จะทำให้บริเวณด้านหลังที่ทำการ อบต.สะอาด มีความสะอาด เด็กนักเรียนปลอดภัย เป็นนโยบายของตนที่จะเข้ามาพัฒนา โดยจะมีการสร้างอาคารเรียนเพิ่มขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องทำการประชาคม เพราะเป็นพื้นที่ที่เคยใช้ประโยชน์มาก่อน และกิ่งของต้นไม้บางต้นยังเกาะเกี่ยวสายไฟฟ้า จึงจำเป็นต้องตัดลง แต่หากเป็นไม้ในสถานที่ราชการ เป็นไม้ที่มีคุณค่า เช่น ประดู่ มะค่า ก็จะประชุมหรือขออนุมัติทางสภา ตนรู้กฎหมายดี ส่วนกรณีที่ระบุว่ามีการนำไม้ไปขายนั้น ขอยืนว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนได้อนุญาตให้ชาวบ้านที่ต้องการไม้ มาตัดและขนย้ายไม้ไปใช้ประโยชน์ที่บ้านเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ตนพร้อมชี้แจงทุกคำถาม.
ภาพ/ข่าว ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์