วันที่ 20 มีนาคม 2565 เวลา09.00 น. ที่ศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ฮอลล์ ถนนทองใหญ่ เขตเทศบาลนครอุดรธานี พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหม่ หัวใจเดิม” มีสมาชิกพรรคและประชาชน เข้าร่วมงานต้องผ่านการตรวจอุณหภูมิ , ลงทะเบียนเป็นครอบครัวเพื่อไทย , รับเสื้อยืดสีแดง , รับอาหารว่าง และแยกเข้าร่วมกิจกรรมรับฟัง 2 ห้องๆ ละ 500 คน รวม กว่า1 ,000 คน ตามมาตรการพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ในงาน “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหม่ หัวใจเดิม” จะทำการเปิดตัวหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คือ น.ส.แพทองธาร ชิณวัตร (อุ๊งอิ๊ง) ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรรมพรรคเพื่อไทย โดย นพ.ชลนาน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย , ส.ส.พรรคเพื่อไทย จากอุดรธานี , ในภาคอีสาน และจากทั่วประเทศ เดินทางมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก และจะมีการถ่านทอดสัญญาสดผ่าน เฟสบุ๊คของพรรคเพื่อไทย และอีกหลายแพทฟอร์ม แชร์สัญญาเพิ่ม
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่พิธีกรเริ่มกิจกรรม แนะนำว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ อยู่ภายใต้มาตรการของ ศบค. วันนี้ครอบครัวเพื่อไทยมามาก ไม่ใช่เฉพาะอยู่ในห้องนี้ ยังได้ถ่ายทอดสัญญาภาพ-เสียง ไปยังห้องที่อยู่ติดกัน , ถ่ายทอดไปยังห้องด้านล่าง และถ่ายทอดสัญญาณสดออกไปทั่วประเทศ จากนั้นได้แนะนำเจ้าของพื้นที่คือ ส.ส.อุดรธานี 8 คน นำโดยนายศราวุธ เพชรพนมพร ประธานกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และนายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมเปิดพรีเซนเตชั่นแนะนำ “ครอบครัวเพื่อไทย” ที่ปรากฏภาพอดีตนายกทักษิณ อดีตนายกสมชาย และอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ทำกิจกรรมในพื้นที่อุดรธานี
นายสุทิน คลังแสง รอง หน.พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน ขึ้นเล่าเรื่อง “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหม่ หัวใจเดิม” ที่มีอายุยาวนานมากกว่า 23 ปี ว่า ในปี 2540 ประเทศไทยเปิดวิกฤติเศรษฐกิจรุนแรง ฟองสบู่แตกลามไปทั่วโลก เรามอบไม่เห็นว่าผู้นำคนไหนจะเข้ามาแก้ไขได้ ที่ผ่านมาก็มีแต่นายกรัฐมนตรีจากทหาร จาก จปร. และนักกฎหมายจากธรรมศาสตร์ ที่สุดในเดือนกรกฎาคม 2541 ก็ชัดเจนว่ามีพรรคด้านเศรษฐกิจเกิดขึ้น ก่อตั้งขึ้นมาเป็น “พรรคไทยรักไทย” ได้รับเสี่ยงตอบรับจากประชาชน ชนะเลือกตั้งขึ้นเป็นผู้นำประเทศ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เล่าถึง การรัฐประหาร 19 ก.ย.49 จากนั้น 30 พ.ค.50 พรรคไทยรักไทยถูกยุบ กรรมการบริหารถูกแช่แข็ง เราก็พยายามสร้างบ้านใหม่ จนได้มาเป็นพรรคพลังประชาชน ตอนแรกไม่คิดว่าจะไปไหวหรือไม่ เพราะหลายคนถูกตัดสิทธิ บางคนย้ายไปอยู่บ้านใหม่ สุดท้ายผลการเลือกตั้ง 15 ธ.ค.50 พรรคพลังประชาชน ก็ชนะการเลือกเหมือนพรรคไทยรักไทย แต่ที่สุดพรรคพลังประชาชนก็ถูกยุบอีก
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ก็เล่าเรื่องของการทำงานของบ้านหลังใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทย ที่ยังคงได้รับความไว้วางใจจากประชาชน หลายโครงกรที่เราทำไว้ไม่ได้รับการสานต่อ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หน.พรรคเพื่อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า หัวใจเดิมของพรรคเพื่อไทย ก็คือพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทยคือบ้านใหม่ เราทุกคนอยู่ในครอบครัวเดียวกัน วันนี้เรามีสมาชิกอยู่ราว 8 ล้านคน อนาคตเราจะมีสมาชิก 15 ล้านคน เลือกตั้งครั้งต่อไปจะเป็นแลนด์ไสด์ มาที่พรรคเพื่อไทยแน่นอน พร้อมมอบให้ น.ส.แพทองธาร ชิณวัตร (อุ๊งอิ๊ง) เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ท่ามกลางเสียงปรบมือโห่ร้องต้อนรับกึกก้องห้อง
น.ส.แพทองธาร ชิณวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรรมพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า คุณพ่อก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ตอนดิฉันอายุ 12 ขวบ จึงเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ เส้นทางการเมืองเป็นเส้นทางไม่ง่ายเลย แม้ตอนนั้นยังไม่ได้เข้ามาเส้นทางการเมือง ก็ได้รับผลกระทบเยอะเช่นเดียวกัน บ้านเพื่อไทย ของเราได้เติบโต และเปลี่ยนแปลงไปมาก ที่ผ่านมาก็ยังมีหลายคนมากๆ ยังพร้อมที่จะสู้ไปกับเรา ขอบคุณประชาชนทุกคน ที่พร้อมจะสู้ไปกับเรา ตลอด 23 ปี เส้นทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ขอพูดว่า เราเป็นรัฐบาลแรกที่จัดตั้งโดยรัฐบาลเดียว อยู่จบครบวาระ และวาระ 2 ยังได้คะแนนเสียงสูงสุดในการเลือกตั้ง
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์เป็นรัฐบาล ไทยรักไทย-พลังประชาชน มาถึงพรรคเพื่อไทย ถึงเวลาแล้วพรรคเพื่อไทย ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อปรับตัวตามพี่น้องประชาชน เราต้องทำพรรคเพื่อไทยให้เป็นเวอร์ชันดีกว่าเดิม เราไม่มีทางลืมประชาชนรากหญ้าของเราที่สนับสนุนพรรคเรามาถึงวันนี้ เรายังตระหนักในความทุกข์ของพี่น้องประชาชนของเราเสมอ เราต้องแข็งแกร่งและอยู่รอด เป็นความหวังประชาชนต่อไปทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นความหวังของประชาชนอีกครั้ง ภายใต้เป้าหมาย 2 ประการ ได้แก่
1.สร้างการมีส่วนร่วมให้คนหลายรุ่นได้มาทำงานร่วมกัน เพื่อหาตรงกลาง ตอบสนองความต้องการของคนทุกรุ่นให้ได้มากที่สุด เช่น การศึกษานโยบายผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า ถือเป็นตัวอย่างของความสำเร็จจากการร่วมมือของคนหลายรุ่นที่มีความถนัดแตกต่างกัน มีบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการเป็นรัฐบาลจริง และมีบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีมุมมองความสนใจที่หลากหลาย เป็นการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเรา และพัฒนาจุดอ่อน โดยที่ยังคง DNA เรื่องเศรษฐกิจ และปากท้องไว้ เพิ่มมิติทางด้านอัตลักษณ์ให้กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ด้วยการลดรายจ่ายประชาชนและสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ ทั้งสองอย่างสามารถทำควบคู่กันได้ภายใต้นโยบายเดียว เพื่อตอบสนองคนทุกๆอายุ ยืนยันได้ว่าพรรคเพื่อไทยทำได้จริงและยังมีอีกหลายโครงการตามที่ได้สื่อสารออกไป และยังมีอีกหลายนโยบายที่กำลังศึกษาภายใต้โมเดลการทำงานของคนหลายรุ่น ที่รอเพียงแค่เวลาอันเหมาะสมในการเปิดเผย
2.เราต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ระบอบเผด็จการต้องหมดไป โดยการเตรียมความพร้อมเอาไว้ หากไม่สามารถสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นโยบายจะดีแค่ไหน จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ อำนาจรัฐเท่านั้นที่จะเป็นทางออกในเวลานี้ และเป็นจุดที่พรรคเพื่อไทยต้องไปให้ถึง ยืนยันว่านโยบายของพรรคเพื่อไทย จะเติมเงินในกระเป๋าให้พี่น้องประชาชนได้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อีกครั้ง
ส่วน การสมัครเป็นครอบครัวเพื่อไทย สมัครได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เราอยากให้พี่น้องประชาชนมาสมัครกันเยอะๆ เพื่อเป็นรัฐบาล เราต้องการสู้ศึกเลือกตั้งอีกครั้ง 14 ล้านเสียง พรรคไทยรักไทย สมัยก่อน มันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง พ่อแม่พี่น้องสามารถสมัครผ่านทางไลน์ได้เลย บ้านหลังใหญ่นี้จะขอต้อนรับทุกท่าน
หลังจากเสร็จการพบปะ และถ่ายรูปร่วมสมาชิกเพื่อไทยแล้ว น.ส.แพรทองธาร หรืออุ๊งอิ๊ง ได้ไปพบกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ใน จ.อุดรธานี นำโดยนายพิสิษฐ์ พิพัฒน์วิไลกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทเมืองอุตสาหกรรมอุดรธานีจำกัด นำนักธุรกิจรุ่นใหม่กว่า 30 ราย ร่วมวงพูดคุยแนวทางการทำงานร่วมกันในอนาคตหากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งเป็นรัฐบาล หรือการสนับสนุนหากแม้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล จะต้องผลักดันให้เกิดความสำเร็จมากที่สุด เนื่องจากพื้นที่ จ.อุดรธานี ส่วนใหญ่ พรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งครบทุกเขต.
ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี
