ปิดคดี “ไอ้แกลบ” คดีโหด หลังปลิดชีพตัวเองดับกลางป่า พบหลักฐานครบ

จนท.หลายชุดลงพื้นที่ตรวจสอบ คนผูกคอดับในป่าดงใหญ่ ระบุเป็น จนท.ที่ใช้ปืนยิงลูกเลี้ยงดับ แล้วหลบหนีเข้าป่า พบปืน และอุปกรณ์เดินป่าครบ คาดสิ้นชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 วัน หรือปลิดชีพตัวเองหลังก่อเหตุมาประมาณ 3 วัน ตำรวจปิดคดีโหดแล้ว

วันที่ 21 มี.ค. 2565 ร.ต.อ ชลิต สุดาจันทร์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และ จนท.ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง เข้าไปตรวจสอบ หลัง จนท.หน่วยพิทักษ์ป่า จำนวน 7 นาย ได้ออกลาดตระเวน ในป่าดงใหญ่  แล้วไปพบศพนายพิทพิรุณ หรือแกรบ พิรภพ อายุ 45 ปี ชาว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ พนักงานราชการตำแหน่งพนักงานพิทักษ์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช อ.โนนดินแอง

 

จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นนายแกลบจริง สภาพศพใช้สายเปลนอน ผูกคอตัวเองกับต้นเคียด หรือต้นสุรามีฤทธิ์ ไม่ใส่รองเท้า กางเกงหลุดหายไป ห้อยลงมากลางลำธารอ่างเก็บน้ำลำนางรองทางทิศตะวันออก หน่วยพิทักษ์ละเลิงร้อยรูประมาณ 1 กม คาดว่าเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 5 วัน จนท.ยังพบปืนลูกซองยาวของทางราชการ ภายรังเพลิง มีลูกกระสุนปืนลูกซองบรรจุอยู่ 4 นัด และในกระเป๋าเสื้อที่กองไว้อีก 11 นัด นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์การเดินป่าอีกจำนวนหนึ่ง ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นาย ผาย เชิดรัมย์ อายุ 57 ปี จนท.หน่วยพิทักษ์ป่าน้ำผุด และซับหวาย อ.ปะคำ เล่าว่า ชุดของตนออกลาดตระเวนด้วยกัน 7 คน เพื่อค้นหานายแกลบ ช่วงที่พบอยู่ระหว่างนั่งพักประจำชั่วโมงเพื่อดื่มน้ำ ได้กลิ่นโชยมาก่อน จากนั้น จนท.อีกคนบอกว่าพบคนผูกคอตาย เมื่อเข้าไปดูมั่นใจว่าเป็นนายแกลบ เพราะจำได้เคยทำงานมาด้วยกันกว่า 20 ปี

สันนิษฐานว่า หลังเกิดเหตุนายแกลบ ได้เตรียมเสบียง และอาวุธ หนีเข้าป่า ต่อมาเสบียงอาจจะหมด ประกอบกับคิดมากที่ถูกเจ้าหน้าที่กดดันหลายด้าน จึงตัดสินใจผูกคอตัวเองตาย หลังก่อเหตุได้ประมาณ 3 วัน จนมีคนมาพบร่างดังกล่าว ถือเป็นการปิดคดีโหดที่นายแกลบ ขโมยปืนและรถของทางราชการ ไปก่อเหตุยิงนายณัฐพงษ์  อานไธสง อายุ 20 ปี ที่บ้านเลขที่178 ม.8 ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ยิงเสียชีวิตภายในบ้าน จากเป้าหมายจะยิง นางกัลยา อานไธสง อายุ 37 ปี แม่ของนายณัฐพงษ์ ผู้ตาย และแฟนใหม่ของนายกัลยา แต่รอดมาได้หวุดหวิด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา

 

ตอนนั้นตำรวจตั้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ,พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้พกพา หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน” แต่เมื่อผู้ก่อเหตุเสียชีวิต ถือว่าเป็นการปิดคดี.

 

ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทักษิณ" ลั่นอย่าฟังเสียงนกเสียงกา "รัฐบาล" ใกล้พัง หยันฝันลมแล้งยุบสภา จวกขาประจำด่านายกฯระวังให้ดี
"พิพัฒน์" รับยังไม่พอใจ ผลผลักดันขึ้นค่าแรง 400 บาท คาดหวังจะได้หลายจังหวัดกว่านี้
ตร.ไซเบอร์ บุกทลาย "เว็บพนันรายใหญ่" เมืองเชียงราย พบเงินหมุนเวียน 200 ล้านต่อเดือน
เพจดังโคตรแสบ! ตั้งฉายา สส.พรรคส้ม แห่กระทืบไลก์ “มะขิ่น ขอสไลด์”
จีนเตือน ‘ฟิลิปปินส์’ ถอนระบบขีปนาวุธสหรัฐฯ ตามคำมั่น
ซานต้าเริ่มตระเวนแจกของขวัญในวันคริสต์มาสอีฟ
บริกส์รับไทยเป็นหุ้นส่วนอย่างเป็นทางการมกราคมปีหน้า
ตำรวจเปรูปลอมตัวเป็น “เดอะ กริ๊นช์” ทลายแก๊งยาเสพติด
ปูตินเผยคืบหน้าแผนพัฒนาดินแดนยึดครองรัสเซีย
อธิบดีกรมการจัดหางาน รับมีการซื้อใบรับรองแพทย์ 'ตรวจโรคต่างด้าว' ขอความร่วมมือนายจ้างเข้มงวด หวั่นเกิดโรคระบาด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น